รัฐบาลท่านเศรษฐาเศรษฐี อยู่ในสภาพน่าห่วงเหมือนต้องดิ้นรนให้อยู่รอดแต่ละวันด้วยการหาเรื่องหรือกิจกรรม ที่โดนใจประชาชนมาแหกตา ห้ามคิด
และกิจกรรมนั้นต้องให้ประชาชนมีส่วนได้ในเชิงประชานิยม เจียดงบประมาณให้บ้างแต่ไม่เต็มจำนวนตามคำมั่นสัญญาช่วงหาเสียง
เช่นการขึ้นเงินเดือนข้าราชการเป็น 18,000 บาทก็ต่างจากคำมั่นว่าจะให้ผู้รับราชการเริ่มต้นที่ 25,000 บาทต่อเดือน
แรงงานขั้นต่ำก็ไม่ได้ 600 บาทต่อวันตามคำประกาศแต่เพิ่มให้นิดหน่อยเพื่อไม่ให้ทวงเอาเต็มจำนวน ส่วนสวัสดิการอื่นเช่นการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบก็เป็นเพียงความพยายามที่สำเร็จได้ยาก
รัฐบาลท่านห้าวเป้งอยู่ในอำนาจรวม 9 ปี มีแม่ทัพบก 3 นายก็ยังทำอะไรไม่ได้กับเจ้าหนี้นอกระบบเพราะมีเครือข่ายแทรกซึมทุกระดับของคนในอำนาจรัฐ
รัฐบาลเศรษฐีเศรษฐารู้ว่าประชาชนเป็นหนี้เยอะตามหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ของจีดีพี ดังนั้นจึงเป็นจุดโดนใจเพราะสามารถกลบโครงการเงินดิจิทัลได้
แม้ทุกวันนี้จะเดินทางสัญจรไปต่างจังหวัดหาเสียงหาแสงอย่างไร ก็ยังมีชาวบ้านเรียกร้องอยากได้เงิน 10,000 บาทดิจิทัล เพราะจนกรอบเต็มที
แต่เงินดิจิทัลอยู่ในสภาพเป็นเงินทิพย์ไปแล้ว ไม่สามารถเป็นความจริงได้เพราะติดขัดทุกอย่าง ด้านกฎหมายและแหล่งเงินจะให้กู้
ดังนั้นต้องหาเรื่องอื่นๆ มากลบต่อเนื่อง เบี่ยงเบนความสนใจซึ่งชาวบ้านบางส่วนคงรู้แล้วว่าเงินทิพย์คงไม่มีทางเป็นความจริงได้ เป็นแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ
นอกจากจะมีปัญหาต้องเอาใจชาวบ้านแล้วยังต้องกังวลเรื่องความปากไวที่สร้างปัญหาไว้หลายเรื่องจนตามแก้ไม่หมดและจะเป็นปัญหาทางกฎหมายด้วย
การเน้นเรื่องโครงการซอฟต์พาวเวอร์ก็ยิ่งทำก็เหมือนเข้ารกเข้าพง คนทำเหมือนเป็นพวกจิตไม่ว่างหรือกินข้าวอิ่มแล้วไม่มีอะไรทำฟุ้งซ่านอยากมีผลงาน
แต่ละอย่างที่คิดขึ้นมานั้นถ้าสร้างความขบขันให้ชาวบ้านก็สะท้อนให้เห็นระดับสติปัญญาและความคิดว่าจะสร้างปัญหาให้บ้านเมือง ถ้าบังเอิญได้เป็นผู้บริหารประเทศ
บ้านเมืองทุกวันนี้เหมือนกับมีผู้นำรัฐบาลเป็นทางการหนึ่งคนคือท่านเศรษฐาเศรษฐี และมีตัวลูกแหง่ เร่งฝึกงานการเมืองอยู่ในสภาพมะม่วงจำบ่ม รอวันที่จะมาถึง
ดังนั้นนายกฯ ตัวจริงจึงต้องตาลีตาเหลือกเร่งหากิจกรรมใหม่ผูกใจชาวบ้านสร้างผลงานให้คนป่วยโรคพิสดารได้ชะลอการเปลี่ยนตัว
ฝ่ายลูกแหง่นายกฯ เงา ยังคิดค้นโครงการซอฟต์พาวเวอร์ให้ชาวบ้านได้หัวเราะคิกคักแทบจะเป็นรายวัน แต่ละอย่างที่นางสรรหามานั้นต้องบอกว่าเกินคาด
แต่ก็ยังเป็นที่ชื่นชมของพวกบ้องตื้น โลกสวยสดใสเอาใจลูกสาวเถ้าแก่เพราะดูแน่แล้วต้องใหญ่ถ้าไม่หกคะเมนเสียก่อน เพราะก้าวพลาดจนลุกขึ้นได้ยาก
สภาวะของบ้านเมืองจึงไร้ทิศทางเพราะผู้นำเศรษฐาเศรษฐียังคงไม่มีแนวทางชัดเจนหรือความคิดว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไรนอกจากเรื่องหญ้าปากคอก
แรงเชียร์ของบรรดานักธุรกิจภาคเอกชนเริ่มแผ่วเพราะเห็นลายแล้วว่า คณะรัฐบาลมีปัญหาเรื่องความรู้ความสามารถ ขาดวิสัยทัศน์ โลกทัศน์และความน่าไว้ใจ
ความน่าเชื่อถือไม่ต้องห่วง ไม่มีอยู่แล้ว
เพียงแค่ปัญหาคนป่วยอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจก็ยังทำให้ความน่าเชื่อถือของประเทศด้านระบบนิติรัฐและนิติธรรมสิ้นสภาพ ไม่มีใครในรัฐบาลกล้าพูด
การจัดประชุมสัญจรของคณะรัฐมนตรีหรือการเดินสายไปต่างประเทศของผู้นำรัฐบาลคงได้ประโยชน์เฉพาะตัวในการสร้างคอนเนกชั่นเพื่อธุรกิจถ้าต้องออกจากการเมือง
ประชาชนจึงไม่มีความหวังอะไรทั้งนั้นว่าชีวิตจะดีขึ้นสามารถลืมตาอ้าปากได้ แม้แต่พวกเป็นหนี้ทั้งนอกและในระบบก็ดูมืดแปดด้าน ไม่รู้จะหารายได้เพิ่มจากแหล่งใด เว้นแต่พวกมีช่องทางทุจริตคอร์รัปชัน
ค่าครองชีพของประชาชนเพิ่มทุกวันโดยไม่จำเป็นต้องมีดัชนีชี้วัด ราคาสินค้าขึ้นไปรออัตราเงินเดือนใหม่และโครงการประชานิยมถมไม่เต็ม พวกมีรายได้คงที่จึงลำบาก
ถ้าพูดถึงเรื่องปัญหาค่าครองชีพก็จะมีผลกระทบจากค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมัน ค่าก๊าซหุงต้ม และสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งราคาจะหนีห่างจากรายได้โดยเฉพาะกลุ่มฐานราก
ทุกวันนี้ชาวบ้านที่ติดตามการเมืองคงรู้อยู่แล้วว่ารัฐบาลนี้มีโอกาสอยู่ต่ออีกไม่กี่เดือน จากนั้นใครจะมาก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้ ลูกแหง่ฝึกงานก็ยังกระดูกไม่แข็งพอรับงานใหญ่ได้
ตัวบุคคลในคณะรัฐมนตรีทุกวันนี้ดูแล้วต่ำกว่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ เป็นพวกหน้าเก่าการเมืองเก่า คนรุ่นใหม่ก็ไร้ประสบการณ์และถูกครอบงำโดยพวกรุ่นเก่า
รอดูว่าผู้นำรัฐบาลเศรษฐาเศรษฐีจะอยู่รอดถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้าหรือไม่ จะไปเพราะเหตุใด จะมีใครมาแทนเพราะเหตุใด จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ
จะเป็นตัวกำหนดว่าบ้านเมืองจะรอดปลอดภัยหรือเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรงด้วยผลกระทบจากนอกประเทศและปัญหาความเชื่อมั่นในประเทศ
หลับตานึกแล้วหวาดเสียวมาก ถ้าผู้นำมือไม่ถึงบ้านเมืองจะเสี่ยงต่อความอยู่รอดมากกว่าที่เคยเป็นมา