เอเอฟพี - ชาวพม่าหลายพันคนพร้อมใจลงเรือล่องในทะเลสาบอินเลเลื่องชื่อของพม่าในวันนี้ (19) เพื่อเฉลิมฉลองการกลับมาของหนึ่งในประเพณียิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ความสุขของบรรดาผู้ศรัทธากลับเจือด้วยความเศร้าโศกจากสงคราม
ประเพณีแห่พระผ่องด่ออู (Phaung Daw Oo) หรือประเพณีแห่พระบัวเข็มแห่งผ่องด่ออู ที่ทะเลสาบอินเล นาน 17 วัน เป็นการอัญเชิญพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ 4 องค์ประดิษฐานบนเรือการะเวกทองล่องไปตามหมู่บ้านต่างๆ ที่กระจายตัวอยู่ตามริมฝั่งของทะเลสาบที่เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมในรัฐชาน
การแพร่ระบาดของโควิด-19 และการรัฐประหารในปี 2564 ทำให้ประเพณีนี้ต้องยกเลิกไปถึง 3 ครั้ง ทำให้คนในท้องถิ่นไม่มีโอกาสได้ทำบุญและสักการบูชาพระพุทธรูป
ในเช้าวันพฤหัสฯ (19) เรือนกการะเวกทองล่องไปตามผืนน้ำจากการถูกจูงลากด้วยเรือยาวที่ใช้วิธีพายเรือตามแบบท้องถิ่น คือการใช้ขาเกี่ยวไม้พายเพื่อเพิ่มแรง
เหล่าผู้ศรัทธาล่องเรือหลายสิบลำตามมาเป็นขบวน พร้อมด้วยเสียงกลองและฉิ่งฉาบที่ตีบรรเลงไปพร้อมกับกองเรือ
“เรากำลังมีความสุขเพลิดเพลินกันอยู่ที่นี่ แต่อีกฟากฝั่งหนึ่ง (นอกทะเลสาบอินเล) สถานการณ์ไม่สู้ดี” นักศึกษารายหนึ่งกล่าวกับเอเอฟพี
“พวกเรารู้สึกเศร้าเพราะสถานการณ์ของพวกเขา เรากังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง” นักศึกษากล่าว โดยอ้างถึงเหตุปะทะด้วยอาวุธที่อาจเกิดขึ้น
ขณะที่พวกเขาเทียบเรือการะเวกที่ประดับด้วยธงพุทธ บรรดาผู้ศรัทธาต่างเข้ากราบไหว้บูชาพระพุทธรูปทั้ง 4 องค์ที่ประดิษฐานอยู่บนเรือ
ส่วนพระพุทธรูปองค์ที่ 5 ประดิษฐานอยู่ที่วัดผ่องด่ออู ไม่ได้อัญเชิญลงเรือ เนื่องจากเคยเกิดอุบัติเหตุเมื่อหลายสิบปีก่อนทำให้พระพุทธรูปตกลงไปในทะเลสาบ
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเคยหลั่งไหลมาที่อินเล หลังรัฐบาลทหารในขณะนั้นเปลี่ยนผ่านไปสู่การปกครองกึ่งพลเรือนในปี 2554 และเปิดประเทศสู่โลกภายนอก แต่นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเลือนหายไปอีกครั้งนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในปี 2564 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และทำให้หลายพื้นที่ของประเทศถูกจำกัด
คนงานรายหนึ่งในเมืองยองฉ่วยที่อยู่ใกล้เคียงกล่าวกับเอเอฟพีว่า โรงแรมของเขาปลดพนักงานออกถึง 80% โรงแรมหลายแห่งต้องปิดตัวเพราะไม่มีแขกทั้งคนท้องถิ่นหรือต่างชาติ
รัฐชานรอดจากการปราบปรามทางทหารที่เลวร้ายที่สุดของกองทัพ ที่กลุ่มสังเกตการณ์ท้องถิ่นกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,100 คน และถูกจับกุมอีกหลายหมื่นคน
แต่ในเดือน มี.ค. ประชาชนราว 30 คน ที่หลบภัยจากการต่อสู้อยู่ที่วัดแห่งหนึ่งที่ห่างจากอินเลไปไม่กี่ชั่วโมงถูกสังหาร โดยรัฐบาลทหารและนักสู้ของฝ่ายต่อต้านต่างกล่าวโทษต่อเหตุสังหารหมู่ครั้งนี้
“พวกเราเตรียมตัวตั้งแต่ได้ยินว่าจะจัดเทศกาลนี้ขึ้น” ธัน ยุ้นต์ วัย 75 ปี กล่าวกับเอเอฟพี
“เราทำบุญให้ผู้คนในพม่าที่กำลังทุกข์ทรมาน เราอธิษฐานให้พวกเขา เราหวังว่าพวกเขาจะมีความสุขสงบอีกครั้งโดยเร็วอย่างที่นี่” ธัน ยุ้นต์ กล่าว
ถเว ยี ชาวพม่าอีกคนหนึ่งกล่าวว่าเธอรู้สึกมีความสุขมากที่งานประเพณีกลับมาจัดอีกหน
“พวกเราเศร้าใจที่ไม่ได้กราบสักการะพระพุทธรูปมา 3 ปีแล้ว ตอนนี้พวกเรามีความสุขมาก ฉันอยากให้ทะเลสาบเต็มไปด้วยผู้คนเหมือนเมื่อก่อน” ถเว ยี กล่าวกับเอเอฟพี.