เอเอฟพี - หน่วยงานด้านแรงงานของสหประชาชาติเรียกร้องให้ผู้ปกครองทหารของพม่ายุติการบังคับใช้แรงงานในกองทัพ และยุติความรุนแรงทั้งหมดต่อสหภาพแรงงาน
การสอบสวนที่ดำเนินการโดยหน่วยงานด้านแรงงานของสหประชาชาติ พบว่า มีการละเมิดอย่างกว้างขวางต่อนุสัญญาว่าด้วยแรงงานบังคับระหว่างประเทศและเสรีภาพในการสมาคมในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้
พม่าตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายนับตั้งแต่กองทัพขับไล่อองซานซูจี ผู้นำพลเรือนที่ได้รับเลือกตามระบอบประชาธิปไตยในการรัฐประหารเดือน ก.พ.2564
องค์การแรงงานระหว่างประเทศของสหประชาชาติได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนต่อข้อกล่าวหาเรื่องการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานแรงงานระหว่างประเทศหลังการรัฐประหาร
คณะกรรมการสอบสวนสรุปว่ารัฐบาลทหารพม่าได้บังคับใช้ข้อจำกัดอย่างกว้างขวางต่อเสรีภาพพลเมืองขั้นพื้นฐานและสิทธิของสหภาพแรงงาน นอกจากนี้ ยังพบว่ากองทัพพม่าบังคับใช้แรงงานหลากหลายประเภท
คณะกรรมการเรียกร้องให้ทางการทหารพม่ายุติความรุนแรง การทรมาน และการปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรมทุกรูปแบบต่อสหภาพแรงงานโดยทันที และยุติการเกณฑ์แรงงานและแรงงานบังคับทุกรูปแบบ รวมถึงเรียกร้องให้รัฐบาลทหารดำเนินการในทันทีเพื่อยุติการละเมิดอย่างร้ายแรงต่ออนุสัญญาว่าด้วยแรงงานบังคับและเสรีภาพในการสมาคม และป้องกันการละเมิดเพิ่มเติม
คณะกรรมการยังพบว่ากฎระเบียบของรัฐบาลทหารมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการใช้เสรีภาพพลเมืองขั้นพื้นฐาน
“สมาชิกและผู้นำสหภาพแรงงานถูกสังหาร ถูกจับกุมโดยพลการ ถูกพิจารณาคดีที่หลอกลวง ถูกตัดสินว่ามีความผิด ถูกควบคุมตัว ถูกทารุณ ข่มขู่คุกคาม ถูกสอดแนม บังคับให้ต้องลี้ภัย เนื่องจากการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานและกิจกรมต่างๆ” รายงานของคณะกรรมการระบุ
นอกจากนี้ ยังพบการใช้พลเรือนอย่างเป็นระบบและแพร่หลายโดยกองทัพพม่าให้ทำหน้าที่ของแรงงานบังคับรูปแบบต่างๆ ในบริบทของกิจกรรมทางทหาร เช่น คนขนของ คนนำทาง และโล่มนุษย์ ตลอดจนเพาะปลูก ก่อสร้าง และบำรุงรักษาค่ายทหาร และจัดหาการเดินทาง ที่พัก อาหาร และงานบ้านต่างๆ
คณะกรรมการเรียกร้องให้รัฐบาลทหารปล่อยตัวและถอนข้อกล่าวหาทางอาญาทั้งหมดต่อสหภาพแรงงานที่ถูกควบคุมตัวเนื่องจากกิจกรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย และฟื้นฟูการคุ้มครองเสรีภาพพลเมืองขั้นพื้นฐานที่ถูกระงับไปตั้งแต่รัฐประหาร
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้กองทัพยุติการบังคับใช้แรงงานทุกรูปแบบโดยกองทัพและกองกำลังที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการบังคับเกณฑ์กำลังเข้ากองทัพ
รายงานของคณะกรรมการยังระบุข้อแนะนำเมื่อประเทศกลับสู่ประชาธิปไตยและเรียกร้องให้ทุกฝ่ายบรรลุการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ
ทั้งนี้ พม่ามีเวลา 3 เดือนในการบอกว่าจะยอมรับรายงานหรือไม่ และหากไม่ยอมรับ พวกเขาต้องการนำเรื่องดังกล่าวขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไม่.