เอเอฟพี - วินฟาสต์ (VinFsat) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติเวียดนามรายงานว่ารายได้ในไตรมาสที่ 3 เพิ่มขึ้น 159% โดยสาเหตุหลักมาจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
แม้จะขาดทุน 2,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 และกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 แต่วินฟาสต์ได้ดำเนินการผลักดันครั้งใหญ่เพื่อที่จะเป็นผู้เล่นระดับโลกในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่มีผู้แข่งขันอยู่หนาแน่น
ในการยื่นเอกสารต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสฯ วินฟาสต์ระบุว่า รายรับรวมของบริษัทในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 342.7 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 159% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายรถในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ 319.5 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 185% จากปีก่อน
มีการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าวินฟาสต์มากกว่า 10,000 คันในช่วงเวลานี้เทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปีก่อนที่ส่งมอบเพียง 153 คัน
“เราเริ่มเห็นยอดขายเพิ่มขึ้นในเดือน ก.ย.ในอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคนาดา”เอกสารระบุโดยไม่ได้ให้รายละเอียดยอดขาย
บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินสนับสนุนประมาณ 1,200 ล้านดอลลาร์ จากวินกรุ๊ปที่เป็นบริษัทแม่ รวมถึงจากประธานฝ่ามเญิตเวือง ชายที่ร่ำรวยที่สุดของเวียดนามและจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 2 ราย ในอีก 6 เดือนข้างหน้า
วินฟาสต์ยังกล่าวอีกว่า คาดว่าบริษัทจะประหยัดเงินได้ 400 ล้านดอลลาร์ หลังจากปรับแผนรายจ่ายสำหรับการผลิตทั่วโลกในปี 2567 และปี 2568 ซึ่งเงินจำนวนนั้นคาดว่าจะนำไปใช้ในการสร้างโรงงานประกอบที่อินโดนีเซียและอินเดีย
โรงงานประกอบของวินฟาสต์แต่ละแห่งในอินโดนีเซียและอินเดียจะมีกำลังผลิตรวมตามแผนสูงสุด 50,000 คันต่อปี และคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ในปี 2569 บริษัทระบุ
วินฟาสต์จดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq เมื่อเดือน ส.ค.และหุ้นของบริษัทผันผวนอย่างรุนแรงนับแต่นั้นโดยแตะระดับเหนือ 82 ดอลลาร์ ก่อนร่วงลงมาและปิดที่ 8.05 ดอลลาร์ในวันพุธ โดยบริษัทหวังที่จะแข่งกับยักษ์ใหญ่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเทสลา และเริ่มสร้างโรงงานในรัฐนอร์ธแคโรไลนาของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา.