ส.อ.ท. รอดูทิศทางอีก 1 เดือนก่อนปรับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปี 2566 ใหม่ที่อาจลดลงต่ำกว่า 1.9 ล้านคันจากยอดผลิตเพื่อการจำหน่ายในประเทศที่มีโอกาสสูงไม่ถึงเป้า 8.5 แสนคันจากสถาบันการเงินเข้มงวดสินเชื่อและการเข้ามาของยานยนต์ไฟฟ้า ล่าสุด 8 เดือนแรกยอดขายในประเทศ ลดลง 11.69% ขณะที่ส่งออกโต 19.53% รั คาดปีนี้EV จะมียอดขายที่ 6-7 หมื่นคัน
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์สำเร็จรูปรวมทุกประเภทเดือนสิงหาคม(ส.ค.) 2566 อยู่ที่ 150,657 คันลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 12.27% ขณะที่ 8 เดือนแรก(ม.ค.-ส.ค.66) อยู่ที่ 1,221,878 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.13% โดยปัจจัยหลักมาจากสัดส่วนการผลิตเพื่อการจำหน่ายในประเทศลดลงส่งผลให้ส.อ.ท.จำเป็นต้องติดตามสถานการณ์อีก 1 เดือนหากไม่ดีขึ้นอาจจำเป็นต้องปรับเป้าหมายการผลิตปี 2566 ลดลงจากเดิมที่วางไว้ 1,900,000 คัน
“ การผลิตเดือนที่เหลือของปีหากอยู่ในระดับเดียวกับส.ค.66 เฉลี่ย 150,657 คันก็คงไม่ถึงเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 1,900,000 คันโดยหลักๆมาสัดส่วนการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศส.ค.66 คิดเป็น 41.15% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26.20% ส่วน 8 เดือน(ม.ค.-ส.ค.66)ปีนี้มีสัดส่วน 42.23 % ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5.25% ขณะที่สัดส่วนผลิตเพื่อส่งออก 8 เดือนแรกคิดเป็น 57.77% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 10.26%”นายสุรพงษ์กล่าว
ทั้งนี้เป้าหมายการผลิตที่ตั้งไว้ปี 2566 จำนวน1,900,000 คันแบ่งเป็นผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 850,000 คันผลิตเพื่อส่งออก 1,050,000 คัน ซึ่งหากพิจารณายอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศเดือนส.ค. 66 อยู่ที่ 60,234 คัน ลดลง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน11.69% เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อจากภาระหนี้ครัวเรือนของไทยยังคงสูงขึ้นส่งผลให้ 8 เดือนแรกปีนี้มียอดขาย 524,784 คัน ลดลงจาช่วงเดียวกันปีก่อน 6.21% ดังนั้นเป้าหมายผลิตเพื่อจำหน่ายมีแนวโน้มไม่ถึงเป้าที่วางไว้ 850,000คันแต่จะมากน้อยเพียงใดคงจะต้องดูมาตรการภาครัฐที่เริ่มกระตุ้นการลดค่าครองชีพประชาชนทั้งค่าไฟ ราคาน้ำมันและอื่นๆ
สำหรับการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปส.ค. 66 อยู่ที่ 87,555 คันเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 19.41% จากการส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกากลางและอเมริกาใต้ส่งผลให้ 8 เดือนแรกปีนี้ส่งออกได้ 724,423 คัน เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 19.53% มีมูลค่าการส่งออก 456,983.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.18% เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มแล้วการส่งออกยังคงมีทิศทางที่ดีอยู่จึงมั่นใจว่าทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ว่าจะส่งออกได้ 1,050,000 คัน
“ หากดูรายละเอียดยอดขายพบว่า 8 เดือนแรกรถยนต์สัปดาบภายในหรือ ICE มียอดขายที่ 429,126 คันลดลง 16.46% ขณะที่รถกลุ่มไฟฟ้าเพิ่มขึ้นทุกประเภททั้งชนิดแบตเตอรี่(BEV) ไฮบริดปลั๊กอิน(PHEV)และไฮบริด(HEV)และที่ผมเคยคาดการณ์ไว้ว่ายอดขายยานยนต์ไฟฟ้าปี 66 จะอยู่ราว 40,000คันตอนนี้เกินเป้าหมายแล้วดังนั้นมองว่าทั้งปีคงจะอยู่ที่ 60,000-70,000คันซึ่งรถเหล่านี้ต้องนำเข้าเกือบทั้งหมดเพราะไทยผลิตแค่ 100 กว่าคันเท่านั้น ดังนั้นอยากให้รัฐบาลเร่งประกาศมาตรการอีวี3.5 ซึ่งจะก่อให้เกิดความชัดเจนทั้งผู้ใช้รถ การลงทุนโรงงาน และผลิตแบตเตอรี่อีวีที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องจากมาตรการ 3.0 ที่จะสิ้นสุด 31 ธ.ค.นี้”นายสุรพงษ์กล่าว