xs
xsm
sm
md
lg

นายใหญ่ UN ชี้ ‘การปราบปรามอย่างเป็นระบบ’ ทำลายความหวังประชาธิปไตยในพม่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - ความหวังที่จะกลับคืนสู่ประชาธิปไตยในพม่าที่ปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการทหารกำลังถูกบดขยี้ด้วยการปราบปรามอย่างเป็นระบบ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวที่การประชุมสุดยอดในอินโดนีเซียร่วมกับ สหรัฐฯ จีน และผู้นำระดับภูมิภาค

พม่าเสียหายจากความรุนแรงนับตั้งแต่รัฐประหารในปี 2564 ที่ขับไล่รัฐบาลของอองซานซูจี และดำเนินการปราบปรามนองเลือดต่อผู้เห็นต่าง

“ความรุนแรงอันโหดร้าย ความยากจนที่ย่ำแย่ลง และการปราบปรามอย่างเป็นระบบ กำลังทำลายความหวังในการกลับคืนสู่ประชาธิปไตย” กูเตอร์เรส กล่าวก่อนการประชุมกับสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่พม่าเป็นสมาชิก

รัฐบาลทหารไม่ได้เข้าร่วมการประชุมหลังจากถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน จนกว่าประเทศจะดำเนินการตามแผนสันติภาพ 5 ข้อตามที่ได้ตกลงไว้เมื่อ 2 ปีก่อน

กูเตอร์เรสกล่าวว่า วิกฤตดังกล่าวเลวร้ายลงกว่าเดิมในปีที่ผ่านมา และกล่าวในการปราศรัยก่อนหน้านี้ว่าโลกกำลังเผชิญกับโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่

ก่อนพบหารือกับผู้นำอาเซียน กูเตอร์เรสได้ย้ำข้อเรียกร้องให้ทางการพม่าปล่อยตัวผู้นำที่ถูกคุมขังและนักโทษทางการเมือง และกลับคืนสู่การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย

อองซานซูจี ผู้นำพลเรือนที่ถูกปลดจากตำแหน่ง เป็นหนึ่งในผู้ที่ยังคงถูกควบคุมตัว

กูเตอร์เรสยังกล่าวว่าสภาพเงื่อนไขในการส่งกลับประเทศอย่างปลอดภัยของผู้ลี้ภัยโรฮิงญาที่หลบหนีออกจากพม่าในปี 2560 จากการปราบปรามอย่างโหดร้ายของทหาร ยังไม่ปรากฏให้เห็น

พม่ากำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ศาลสูงสุดของสหประชาชาติหลังการอพยพครั้งใหญ่

บรรดาผู้นำในการประชุมสุดยอดอาเซียนได้เรียกร้องให้ผู้ปกครองของพม่าลดความรุนแรงและหยุดการโจมตีที่มุ่งเป้าหมายยังพลเรือน คำแถลงที่รัฐบาลทหารประณามว่าเป็นฝ่ายเดียว

นอกจากนี้ พม่ายังถูกฟิลิปปินส์เข้าแทนที่ตำแหน่งประธานหมุนเวียนของอาเซียนในปี 2569 ขณะที่เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียรายหนึ่งที่ปฏิเสธจะระบุตัวตนกล่าวว่า ‘พวกเขายังคงโดดเดี่ยว อาเซียนไม่ไว้ใจพวกเขา’.
กำลังโหลดความคิดเห็น