เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่พม่าจับกุมชาวโรฮิงญาได้เกือบ 150 คน ที่ต้องสงสัยว่าพยายามหลบหนีออกจากประเทศ เจ้าหน้าที่เผยกับเอเอฟพีวันนี้ (15)
ชาวมุสลิมโรฮิงญาในพม่าส่วนใหญ่ถูกมองว่าเป็นผู้ลักลอบเข้าประเทศจากบังกลาเทศ พวกเขาถูกปฏิเสธสถานะพลเมือง และต้องได้รับอนุญาตในการเดินทาง
กองทัพเริ่มปราบปรามโรฮิงญาในปี 2560 ในแต่ละปีมีโรฮิงญาหลายพันคนยอมเสี่ยงชีวิตออกเดินทางจากค่ายพักพิงในบังกลาเทศและพม่าเพื่อมุ่งหน้าไปมาเลเซียและอินโดนีเซีย ที่ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศเป็นชาวมุสลิม
ชายชาวโรฮิงญา 127 คน และหญิง 18 คน ถูกจับกุมเมื่อวันศุกร์ใกล้หมู่บ้าน Waekhami ในรัฐมอญ ทางตอนใต้ของประเทศ
“พวกเขาถูกควบคุมตัวตั้งแต่ตอนนั้นและอยู่ระหว่างการสอบสวนตามกฎหมายคนเข้าเมือง” อ่อง มัต จ่อ เส็ง โฆษกสภาบริหารรัฐมอญ กล่าวกับเอเอฟพี
พม่ากำลังเผชิญกับข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ศาลสูงสุดของสหประชาชาติจากการปราบปรามในปี 2560 ที่ทำให้โรฮิงญาหลายแสนคนต้องอพยพหลบหนีไปบังกลาเทศ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เรือที่บรรทุกโรฮิงญาราว 50 คน เกิดล่มกลางทะเลนอกชายฝั่งพม่า หน่วยกู้ภัยกู้ร่างขึ้นมาได้ 17 ศพ แต่ที่เหลือยังคงสูญหาย
บังกลาเทศและพม่าได้เจรจาหารือเกี่ยวกับความพยายามที่จะเริ่มส่งผู้ลี้ภัยโรฮิงญากลับประเทศ แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อเดือนก่อนว่าสภาพเงื่อนไขยังไม่ปลอดภัยสำหรับการเดินทางกลับ
พม่าอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่รัฐบาลพลเรือนของอองซานซูจีถูกโค่นล้มในการรัฐประหารในเดือน ก.พ.2564 ที่ทำให้ช่วงสั้นๆ ของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศต้องสิ้นสุดลง.
