xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพเรือ “พม่า-บังกลาเทศ” จับมือร่วมลาดตระเวนทางน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เรือรบพม่า (แฟ้มภาพ)
MGR Online - กองทัพเรือพม้าและบังกลาเทศ เซ็นข้อตกลงร่วมลาดตระเวนทางน้ำตลอดแนวชายแดน เพื่อป้องกันปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะการลักลอบเดินทางข้ามประเทศของชาวโรฮิงญา และกองทัพติดอาวุธกลุ่ม ARSA

วันที่ 2 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา พลจัตวาจ่อจ่อถู่ และพลจัตวา Mustaque Ahmed ในฐานะตัวแทนของกองทัพเรือพม่า และกองทัพเรือบังกลาเทศ ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมลาดตระเวนทางน้ำของกำลังพลจากทั้ง 2 กองทัพ เพื่อช่วยกันรักษาความสงบ ปราบปรามอาชญากรรม ตลอดจนป้องกันการกระทำที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตลอดแนวชายแดนทางน้ำของทั้ง 2 ประเทศ

ข้อตกลงดังกล่าว เป็นผลสรุปที่ได้จากการหารือร่วมกันของตัวแทนกองทัพเรือพม่าและบังกลาเทศ ตลอดวันที่ 1 กันยายน 2566 ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานกองบัญชาการกองทัพภาคอิระวดี ในกรุงย่างกุ้ง

การประชุมร่วมกันของตัวแทนกองทัพเรือพม่าและบังกลาเทศ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2566
พลจัตวา Mustaque Ahmed เดินทางจากบังกลาเทศถึงสนามบินนานาชาติย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 เพื่อเข้าร่วมประชุมระหว่างกองทัพเรือพม่าและบังกลาเทศ ครั้งที่ 6 ในวันที่ 1 กันยายน หลังมีการเซ็นข้อตกลงร่วมลาดตระเวนทางน้ำของทั้ง 2 กองทัพเรือในวันที่ 2 กันยายนแล้ว พลจัตวา Mustaque Ahmed ก็เดินทางกลับบังกลาเทศ

ปัจจุบัน นอกจากตามแนวชายฝั่งอ่าวเบงกอล ในมหาสมุทรอินเดีย ที่เป็นพื้นที่ปฏิบัติการของกองทัพเรือพม่าและบังกลาเทศแล้ว ยังมีพื้นที่ตามแม่น้ำนาฟ ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างรัฐยะไข่กับบังกลาเทศ อาชญากรรมที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนของ 2 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการลักลอบขนส่งยาเสพติด และการค้ามนุษย์

แต่ปัญหาที่น่าจะเป็นเป้าหมายหลักของข้อตกลงลาดตระเวนร่วมกันของทั้ง 2 กองทัพเรือ คือการลักลอบเดินทางเพื่อไปทำงานอย่างผิดกฏหมายตามประเทศต่างๆ ของชาวโรฮิงญา ที่อาศัยพื้นที่ทางบกในพม่า และพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทะเลอันดามัน ไปชายหาดรัฐมอญและจังหวัดในฟากตะวันตกของประเทศไทย รวมถึงปราบปรามความเคลื่อนไหวของทหารจากกองทัพปลอดปล่อยโรฮิงญาแห่งอาระกัน (Arakan Rohingya Salvation Army) หรือ ARSA กองกำลังติดอาวุธของชาวมุสลิม ที่อาศัยแนวชายแดนพม่า-บังกลาดเทศ เป็นพื้นที่เคลื่อนย้ายกำลังพล.


กำลังโหลดความคิดเห็น