MGR Online - ลาวยังเผชิญวิกฤตจากภัยธรรมชาติ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องเริ่มทำให้มีคนเสียชีวิตแล้ว ที่แขวงคำม่วน ดินถล่มถนน 8A บนภูเขายาวเกือบ 10 กม. มีรถติดค้างบนดอย 110 คัน มีผู้สูญหาย 1 คน ต้องระดมทหารเร่งช่วยเหลือ ที่บอลิคำไซ คนออกหาของป่าถูกดินถล่มทับดับ 2 ราย ส่วนเมืองมรดกโลกหลวงพระบางเตรียมรับน้ำที่เขื่อนไฟฟ้าน้ำคาน 2-3 ต้องระบายออกมา ส่งผลให้ระดับน้ำสูงจากปกติอีกถึง 2 เมตร
ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในลาวมานานกว่า 1 สัปดาห์ กำลังสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของคนลาวมากขึ้นทุกขณะ โดยเมื่อวานนี้ (6 ส.ค.) ทางการแขวงคำม่วน ต้องระดมกำลังทหารจำนวนมากจากกองพันที่ 617 ออกช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายนับร้อยคนที่ติดค้างอยู่บนถนนหมายเลข 8A บนเทือกเขาในเมืองคูนคำ เนื่องจากฝนที่ตกหนัก ทำให้เกิดดินโคลนถล่มไหลลงมาทับเส้นทางบนภูเขาเป็นระยะทางยาวเกือบ 10 กิโลเมตร
จุดเกิดเหตุดินถล่มเป็นเส้นทางช่วงหลักกิโลเมตรที่ 46-65 จากเขตพูไฮ บ้านคูนคำ เมืองคูนคำ แขวงคำม่วน ไปบ้านหนอกกอก เมืองคำเกิด แขวงบ่อลิคำไซ จากการตรวจสอบพบว่า มีรถติดค้างอยู่บนเส้นทางช่วงนี้ 110 คัน เป็นรถบรรทุก 95 คัน รถกระบะ 13 คัน รถเมล์โดยสาร 1 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ในนี้มีรถที่ถูกดินซัดจนตกเหวลงไปแล้ว 5 คัน เป็นรถบรรทุก 3 คัน รถเมล์โดยสารและรถกระบะอย่างละ 1 คัน
นายแก้ววิไล ไซยะบุด เจ้าเมืองคูนคำ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนลาวว่า เจ้าหน้าที่ได้ให้ความช่วยเหลือจนสามารถนำประชาชนกว่า 70 คน ที่ติดค้างอยู่บนดอยช่วงที่เกิดเหตุดินถล่มลงไปอยู่ในที่ปลอดภัยได้เกือบหมดแล้ว เหลือเพียงคนขับรถบรรทุกชาวเวียดนาม 1 คน ที่ยังคงสูญหาย และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตามหาตัวอยู่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องจักรเข้าเคลียร์พื้นที่เพื่อนำรถที่ติดค้างอยู่ทั้ง 110 คัน ออกมา และเปิดเส้นทางให้สามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้งโดยเร็ว
ส่วนที่บ้านเมืองม่วน เมืองเวียงทอง แขวงบอลิคำไซ มีรายงานว่า ชาวบ้าน 2 คน ได้ถูกดินโคลนไหลลงมาทับจนเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่า ทั้ง 2 คน เป็นชายอายุ 25-30 ปี ได้ชวนกันเดินทางขึ้นไปหาของป่าบนภูน้ำกู้ ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2566 จนวันรุ่งขึ้นยังไม่กลับมา ครอบครัวของทั้งคู่จึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วยออกตามหา กระทั่งเวลา 10.00 น. ของวันที่ 6 สิงหาคม จึงพบร่างของทั้งคู่นอนเสียชีวิตอยู่ภายใต้กองดินโคลนที่ถล่มลงมาทับ
ที่เมืองหลวงพระบาง ประชาชนต่างกำลังเตรียมพร้อมรับมือกับระดับน้ำในแม่น้ำคานที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำคาน 2 และ 3 ได้แจ้งว่า เขื่อนจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน ผ่านทางระบายน้ำล้น ตั้งแต่เวลา 12.00 น.ของวันที่ 6 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป โดยจะมีน้ำถูกปล่อยลงมาเพิ่มขึ้น 198 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำคานช่วงท้ายเขื่อนจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกถึง 2 เมตร
เขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำคาน 2 และ 3 ตั้งอยู่ในเมืองเชียงเงิน ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางไปทางทิศใต้ไม่ไกลนัก โดยเขื่อนน้ำคาน 2 มีกำลังการผลิตติดตั้ง 130 เมกะวัตต์ มีขีดจำกัดของปริมาณน้ำเหนือเขื่อน 475.23 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล (MASL) เขื่อนน้ำคาน 3 กำลังการผลิตติดตั้ง 60 เมกะวัตต์ ขีดจำกัดของปริมาณน้ำเหนือเขื่อน 349.50 MASL
แม่น้ำคานมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่แขวงหัวพัน ชายแดนลาว-เวียดนามในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นไหลลงมาทางทิศตะวันตก ผ่านแขวงเชียงขวาง เข้าสู่แขวงหลวงพระบาง และไหลลงแม่น้ำโขง ในตัวเมืองหลวงพระบางบริเวณใกล้กับวัดเชียงทอง.