บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen ผู้นำการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานน้ำรายใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว เร่งลงทุนรับกระแสความต้องการพลังงานสะอาดของโลก ย้ำศักยภาพแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ใหญ่ที่สุดใน สปป.ลาว สปป.ลาว คาดว่าจะมีกำลังการผลิตมากกว่า 20,000 เมกะวัตต์ภายในปี 2573 และมีแผนพัฒนาโรงไฟฟ้าทั้งหมดรวม 42 โครงการในอนาคต พร้อมเปิดจองหุ้นกู้ครั้งที่ 3/2566 จำนวน 2 ชุด วันที่ 22-24 ส.ค.นี้ ชูอัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.30-6.90% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เป็นสกุลเงินบาทไทย เสนอขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ 8 แห่ง เชื่อมั่นนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ตอบรับดี จากศักยภาพและการเติบโตของธุรกิจเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานสะอาดในอาเซียน
นายวันแสง วันนะวง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) (EDL-Gen) เปิดเผยว่า EDL-Gen ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานน้ำรายใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว ซึ่งเดิมเคยเป็นส่วนหนึ่งของการไฟฟ้าลาว (EDL) แต่แยกมาตั้งเป็นบริษัทมหาชน เพื่อต้องการระดมทุนเร่งการสร้างเขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้า ปัจจุบัน EDL-Gen มีโครงการทั้งหมดที่เปิดดำเนินการ (COD) รวม 28 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 1,790 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการที่ EDL-Gen เป็นเจ้าของและพัฒนาโครงการเอง (HPP) จำนวน 10 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมด 699 เมกะวัตต์ และโครงการที่ร่วมลงทุนกับภาคเอกชนที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระ (IPP) อีกจำนวน 18 โครงการ รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 1,091 เมกะวัตต์ โดยปีที่ผ่านมามีรายได้จากการขายไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ซึ่งมาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าที่ผลิตจากโครงการ HPP และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในโครงการ IPP (ไม่รวมรายได้อื่นๆ) ทั้งหมดรวม 5,403 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.5% และในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้รวมจากการขายไฟฟ้าทั้งหมดที่ผลิตได้ (HPP+IPP) ประมาณ 945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ สปป.ลาวมีสัญญาการจำหน่ายไฟฟ้าภายใต้กรอบความร่วมมือ MOU การซื้อไฟฟ้ากับประเทศต่างๆ ได้แก่ ไทย 10,500 เมกะวัตต์ กัมพูชา 6,000 เมกะวัตต์ เวียดนาม 5,000 เมกะวัตต์ พม่า 600 เมกะวัตต์ และสิงคโปร์ 100 เมกะวัตต์ และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการจำหน่ายไฟฟ้าให้สิงคโปร์เพิ่มเติมอีกเป็น 300 เมกะวัตต์ รวมทั้งมีการจำหน่ายไฟฟ้าไปประเทศจีนตอนใต้ภายใต้สัญญาแลกเปลี่ยนพลังงานระหว่างประเทศ และมีการทำกรอบความร่วมมือ (MOU) ในการส่งเสริมด้านพลังงานระหว่างประเทศกับประเทศบรูไนเมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงของ EDL-Gen ในอนาคต
นอกจากนี้ สปป.ลาว มีแผนปรับปรุงประสิทธิภาพและขยายสายส่งไฟฟ้า ทั้งในประเทศและไปประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน สร้างเสถียรภาพในการจ่ายไฟให้ดียิ่งขึ้น รองรับการใช้ไฟฟ้าในประเทศอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการส่งออกไปประเทศต่างๆ มากขึ้น รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างเต็มรูปแบบ เช่น โครงการรถไฟฟ้าลาว-จีน โครงการทางด่วนเวียงจันทน์-บ่อเต็น และโครงการท่าบกท่านาแล้ง ซึ่งเป็นศูนย์โลจิสติกส์เวียงจันทน์ (VLP) จะช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเข้ามาตั้งฐานผลิตในประเทศลาวมากขึ้น
กรรมการผู้จัดการ EDL-Gen กล่าวว่า เพื่อเป็นการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน บริษัทฯ ได้เปิดให้นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่จองซื้อหุ้นกู้ครั้งที่ 3/2566 จำนวน 2 ชุด อายุ 3 ปี และ 4 ปี 3 เดือน ในราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100 หน่วย โดยหุ้นกู้ชุดดังกล่าวเป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2569 และ 2570 ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 6.30% และ 6.90% ต่อปีตามลำดับ ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ในสกุลเงินบาทไทย โดยเงินทุนที่ได้จากการออกตราสารหนี้ครั้งนี้จะนำมาใช้ในการรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ชุดเดิมที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนกันยายนนี้ ทำให้ EDL-Gen สามารถบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินให้มีความเหมาะสมกับแผนการลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าตามแผนระยะยาวเพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืน
ทั้งนี้ บริษัทฯ เปิดให้นักลงทุนจองซื้อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้จำนวน 8 ราย ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยกำหนดให้นักลงทุนชำระค่าจองซื้อในวันที่ 22-24 สิงหาคมนี้