MGR Online - ชาวคะฉิ่น และผู้พลัดถิ่นที่อาศัยอยู่รอบเมืองหล่ายจ่า ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ KIO ต้องเผชิญเคราะห์กรรมซ้ำซ้อน เกิดไข้ป่าระบาดหนัก ขณะที่ KIA กำลังสู้รบอย่างดุเดือดกับกองทัพพม่า ชั่วเวลาเพียง 1 เดือน รพ.หล่ายจ่าเจอผู้ป่วยแล้วกว่า 700 ราย
วันที่ 13 กรกฎาคม 2566 สำนักข่าว Kachin Waves รายงานว่า ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่โดยรอบเมืองหล่ายจ่า ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ขององค์กรเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Organisation : KIO) ได้เกิดการระบาดอย่างหนักของโรคมาลาเรีย และไข้หวัดใหญ่ มีการพบผู้ป่วยแล้วหลายร้อยราย โดยพื้นที่เหล่านี้นอกจากมีชุมชนดั้งเดิมของชาวคะฉิ่นแล้ว ยังมีค่ายผู้ลี้ภัยจากการสู้รบภาย (Internally Displaced People : IDPs) ตั้งอยู่อีกอย่างน้อย 4 แห่ง
ฝ่ายสาธารณสุข KIO รายงานว่า ได้พบผู้ป่วยที่เป็นผู้ลี้ภัยที่อยู่ในค่ายเจ่หย่าน และค่ายพงลูนหย่านแล้วกว่า 700 ราย ทั้งหมดได้รับการรักษาตัวยังโรงพยาบาลประจำเมืองหล่ายจ่า นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยที่เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่ใช่ผู้ลี้ภัยรวมอยู่ด้วยอีกจำนวนมาก ผู้ป่วยเหล่านี้มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในช่วงหัวค่ำของทุกวัน ที่โรงพยาบาลหล่ายจ่า จะเห็นภาพผู้ป่วยยืนต่อแถวกันยาวเหยียดเพื่อรอรับยาต้านมาลาเรียที่เจ้าหน้าที่นำมาแจก
มีรายงานเพิ่มอีกว่า ตลอด 1 เดือนมานี้ แผนกคนไข้นอกของโรงพยาบาลหล่ายจ่า มีผู้ป่วยมาพบแพทย์เฉลี่ยสัปดาห์ละประมาณ 900 คน พบว่าคนไข้นอกเหล่านี้มีสัดส่วนของคนที่ป่วยเป็นโรคมาลาเรีย และไข้หวัดใหญ่มากที่สุด
โรคมาลาเรีย หรือไข้ป่า หรือไข้จับสั่น เกิดจากเชื้อโปรโตซัว กลุ่มพลาสโมเดียม (Plasmodim) เข้าไปทำลายเม็ดเลือดแดงของผู้ป่วย โดยมียุงก้นปล่องตัวเมียเป็นพาหะนำโรค เมื่อผู้ป่วยรับเชื้อเข้าไปหลังถูกยุงกัด ระยะแรกจะมีไข้สูง หนาวสั่น เหงื่อออก หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เชื้อจะเข้าสู่สมอง ทำให้มีอาการซึม ชัก น้ำตาลในเลือดต่ำ ไตวาย น้ำท่วมปอด มีโอกาสเสียชีวิตสูง
เมืองหล่ายจ่าตั้งอยู่ชายแดนรัฐคะฉิ่น-จีน ฝั่งตรงข้ามเป็นเมืองหยิงเจียง หรือที่มีชื่อในภาษาไตว่า “เมืองหล้า” เขตปกครองตนเองชนชาติไตและจิ่งพัว เต๋อหง มณฑลยูนนาน ส่วน KIO เป็นองค์กรเมืองของกลุ่มชาติพันธุ์คะฉิ่น ที่เคลื่อนไหวเคียงคู่ไปกับกองทัพเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independence Army : KIA) กองกำลังติดอาวุธขนาดใหญ่ที่ยังไม่สงบศึกกับกองทัพพม่า
การระบาดของโรคมาลาเรียและไข้หวัดใหญ่ เป็นสถานการณ์ที่เพิ่มความตึงเครียดให้ชาวคะฉิ่นที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยรอบเมืองหล่ายจ่า เพราะตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ได้เกิดการสู้รบอย่างรุนแรงระหว่างทหารพม่า กับ KIA ในหลายพื้นที่ใกล้ๆ กับเมืองหล่ายจ่า โดยเฉพาะตามแนวเส้นทางเข้าไปยังตัวเมือง ที่แยกมาจากทางหลวงหมายเลข 31 (พะโม-มิดจีน่า) กองทัพพม่าได้ให้การสนับสนุนทหารราบ โดยใช้ทั้งอาวุธหนักและเครื่องบินรบ บินไปโจมตีหน่วยทหาร KIA ที่ตั้งอยู่บริเวณนี้.
