เอเอฟพี - เวียดนามวางแผนที่จะขอให้ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ยูทูป และติ๊กต็อก ยืนยันตัวตน โดยอ้างถึงความจำเป็นในการต่อสู้กับการหลอกลวงทางออนไลน์
ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้เป็นประเทศที่มีอัตราการฉ้อโกงทางออนไลน์สูงที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฉ้อโกงทางการเงิน การหลอกลวงด้วยอัตลักษณ์และการหลอกให้หลงรักเพื่อฉ้อโกง ตามการระบุขององค์กร Global Anti Scam Alliance
แต่เวียดนามมักใช้มาตรการข้อจำกัดสื่อสังคมออนไลน์เพื่อควบคุมเสรีภาพในการแสดงออก ที่นักวิจารณ์รัฐบาล รวมทั้งผู้ติดตามทางออนไลน์มักตกเป็นเป้า
“บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่ไม่ยืนยันตัวตนจะถูกจัดการ” เหวียน แถ่ง เลิม รัฐมนตรีช่วยกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสาร ระบุ โดยไ่ม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
เหวียน แถ่ง เลิม กล่าวว่า ข้อกำหนดใหม่ของรัฐบาลเกี่ยวกับข้อมูลออนไลน์มีกำหนดออกบังคับใช้ในปลายปีนี้ และระบุว่ามีหลายครั้งที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่ละเมิดกฎหมายได้เพราะพวกเขาใช้แพลตฟอร์มต่างชาติ
เขากล่าวว่า มาตรการนี้จะช่วยป้องกันการใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวสร้างกลุ่มฉ้อโกงที่ไม่สามารถติดตามตัวได้ แต่ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการลงโทษผู้ที่ละเมิดกฎหมาย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งเดือนหลังจากทางการกล่าวว่า พวกเขาจะสอบสวนติ๊กต็อกเกี่ยวกับการเผยแพร่เนื้อหาที่เป็นพิษบนแอปพลิเคชัน
เวียดนามยังขอให้บริษัทเทคโนโลยีต่างชาติจัดตั้งสำนักงานตัวแทนในเวียดนามและจัดเก็บข้อมูลในประเทศ
ข้อกำหนดนี้เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ที่ประกาศใช้ในปี 2561 ซึ่งบังคับให้เฟซบุ๊กและกูเกิลต้องลบโพสต์ที่ถือว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติภายใน 24 ชั่วโมง
เฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก และยูทูป ไม่ได้ขอให้ผู้ใช้งานในเวียดนามยืนยันตัวตนของพวกเขา
เมื่อต้นปี ทางการเวียดนามได้สั่งให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือยืนยันตัวตน และจากนั้นได้บล็อกซิมการ์ดผู้ใช้งานไปราว 1.2 ล้านราย.