รอยเตอร์ - การสนับสนุนรัฐบาลทหารพม่าของรัสเซียเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้และทำลายเสถียรภาพจากการจัดหาอาวุธที่โหมกระพือความขัดแย้ง และกลายเป็นหายนะสำหรับประเทศ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าว
สหรัฐฯ กังวลถึงผลกระทบวงกว้างของวิกฤตที่ทวีความรุนแรงขึ้นในพม่านับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในปี 2564 และความสัมพันธ์ที่ก้าวหน้าขึ้นระหว่างรัฐบาลทหารกับรัสเซีย ที่อาจพยายามตั้งฐานทัพทหารในประเทศ เดเร็ก โชเลต์ ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวกับรอยเตอร์
“ใครก็ตามที่กำลังหารือกับมอสโกจำเป็นต้องบอกพวกเขาว่าการสนับสนุนทางทหารอย่างต่อเนื่องของพวกเขาต่อรัฐบาลทหารพม่านั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ เป็นการทำลายเสถียรภาพ” โชเลต์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ระหว่างเยือนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“และไม่ได้เป็นแค่ปัญหาสำหรับพม่าเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาสำหรับภูมิภาคนี้ด้วย” โชเลต์ กล่าวเสริม
พม่าอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่การรัฐประหารที่ยุติการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ดำเนินมาได้เพียงทศวรรษเดียว และยังทำให้มีผู้พลัดถิ่นจากการสู้รบราว 1.2 ล้านคน ตามการระบุของสหประชาชาติ ขณะที่กองทัพพยายามบดขยี้ฝ่ายต่อต้านการปกครองของตน
นักเคลื่อนไหวและผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติได้กล่าวประณามรัสเซีย ซึ่งเป็นมหาอำนาจแรกที่ให้การสนับสนุนรัฐบาลทหาร เช่นเดียวกับจีน สำหรับการจัดหาอาวุธให้กองทัพ ที่พวกเขากล่าวหาว่ากระทำการทารุณต่อพลเรือนอย่างเป็นระบบ แต่รัฐบาลทหารระบุว่า พวกเขากำลังต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย
“สิ่งที่เราเห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือความสัมพันธ์ทางทหารที่กำลังขยายตัวขึ้น ตอนนี้ผมกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการจัดหาอาวุธจากรัสเซีย” โชเลต์ กล่าว
รัสเซียกลายเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของพม่านับตั้งแต่การรัฐประหาร ในขณะที่ตะวันตกเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อทั้ง 2 ประเทศ
รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซียและนักการทูตระดับสูงเดินทางเยือนพม่า ในขณะที่ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย หัวหน้ารัฐบาลทหารเดินทางเยือนรัสเซียหลายครั้งตั้งแต่ปี 2564 และยังได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
โชเลต์ กล่าวว่า รัฐบาลของไบเดนมองว่าวิกฤตในพม่าเป็นภัยคุกคามรุนแรงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงความไม่มั่นคง อาชญากรรมข้ามชาติ และยาเสพติดผิดกฎหมาย
เขากล่าวว่า สหรัฐฯ สนับสนุนความพยายามทางการทูตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในพม่า และกำลังทำงานร่วมกับประเทศเหล่านั้นเพื่อมีส่วนร่วมกับฝ่ายต่อต้านที่เป็นประชาธิปไตย และเชื่อว่าประเทศอื่นๆ ควรทำสิ่งเดียวกันนี้.