รอยเตอร์ - บริษัทอินเทล คอร์ป (Intel) กำลังพิจารณาที่จะเพิ่มการลงทุนจากที่ลงทุนไว้เดิม 1,500 ล้านดอลลาร์ในเวียดนาม เพื่อขยายโรงงานทดสอบและบรรจุชิปในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าว 2 ราย
ความเคลื่อนไหวที่อาจเป็นไปได้ ที่แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า อาจมีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์นี้ จะเป็นสัญญาณถึงบทบาทที่ขยายตัวขึ้นของเวียดนามในห่วงโซ่อุปทานโลกในด้านเซมิคอนดักเตอร์ ในขณะที่บริษัทต่างๆ พยายามลดการพึ่งพาจีนและไต้หวันเนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองและความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ
หนึ่งในแหล่งข่าวระบุว่า การลงทุนมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอีกหลายปีข้างหน้าและอาจมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่แหล่งข่าวรายที่ 2 ระบุว่า อินเทลกำลังพิจารณาลงทุนในสิงคโปร์ และมาเลเซียแทนเวียดนามด้วย
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวทั้ง 2 ราย ไม่ขอเปิดเผยชื่อเนื่องจากแผนดังกล่าวยังไม่การประกาศต่อสาธารณะ
ทั้งนี้ อินเทลได้ตอบคำถามของรอยเตอร์ถึงความเป็นไปได้ในการลงทุนว่า เวียดนามเป็นส่วนสำคัญของเครือข่ายการผลิตทั่วโลกของอินเทล แต่บริษัทยังไม่มีการประกาศการลงทุนใหม่ใดๆ
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการลงทุนและการวางแผนของเวียดนาม และหน่วยงานท้องถิ่นของนครโฮจิมินห์ ที่โรงงานของอินเทลตั้งอยู่ ไม่ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้
คำแถลงบนเว็บไซต์ของรัฐบาลเวียดนามถูกปรับแก้เมื่อวันพุธ (8) เพื่อลบการอ้างอิงถึงความพยายามของนครโฮจิมินห์ที่จะดึงดูดเงินลงทุนเพิ่มเติมจากอินเทลมูลค่า 3,300 ล้านดอลลาร์
โรงงานทดสอบและบรรจุชิปในนครโฮจิมินห์เป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลกของอินเทล และคาดว่าจนถึงขณะนี้บริษัทได้ลงทุนไปแล้วราว 1,500 ล้านดอลลาร์
ยักษ์ใหญ่ด้านชิปของสหรัฐฯ มีที่ดินเพิ่มเติมในพื้นที่ที่โรงงานตั้งอยู่ และการขยายโรงงานในเวียดนามจะช่วยให้บริษัทสามารถจัดการปัญหาการหยุดชะงักของอุปทานจากการพึ่งพาประเทศเดียวหรือโรงงานเดียวได้ดีขึ้น หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าวกับรอยเตอร์โดยอ้างถึงการหารือภายใน
หนึ่งในแหล่งข่าวกล่าวว่า อินเทลกำลังพิจารณาการลงทุนในเวียดนาม ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้แน่ใจว่าการขยายการลงทุนจะไม่ถูกวอชิงตันมองว่าเป็นท่าทีต่อต้าน เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังผลักดันให้เพิ่มการผลิตชิปในประเทศ.