MGR Online - เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินเนื่องจากปริมาณข้าวมีไม่พอป้อนความต้องการของผู้บริโภคในเมืองหงสา แขวงไซยะบูลี ที่ตั้งของโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดของ สปป.ลาว เจ้าเมืองต้องทำหนังสือสั่งห้ามส่งข้าวเปลือกออกนอกพื้นที่โดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเก็งกำไรจนราคาผันผวน ใครฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี
ช่วงเย็นวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เปี่ยน จินดา หัวหน้าห้องว่าการเมืองหงสา แขวงไซยะบูลี ได้มีหนังสือแจ้งการ เลขที่ 615/หวก.หส. ถึงประชาชนทุกคน รวมถึงบริษัทห้างร้านที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อ-ขายข้าว ทุกแห่งในเมืองหงสา เรื่อง การห้ามส่งออกข้าวเปลือกในเมืองหงสา
รายละเอียดในหนังสือระบุว่า ปัจจุบันปริมาณข้าวภายในตัวเมืองหงสามีไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคของประชาชน ดังนั้น เพื่อทำให้ราคาขายข้าวในเมืองมีเสถียรภาพ และป้องกันไม่ให้เกิดการผันผวน จึงมีความจำเป็นต้องสั่งห้ามไม่ให้มีการส่งออกข้าวกิน ประเภทข้าวเปลือกไปยังต่างเมืองและต่างแขวงอย่างเด็ดขาด ยกเว้นกรณีที่ได้รับอนุญาตจากแขนงการที่เกี่ยวข้อง หากมีการฝ่าฝืนและเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จะดำเนินการตามระเบียบกฎหมายอย่างเข้มงวด
เมืองหงสา อยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของลาว ห่างจากชายแดนไทยที่ตำบลห้วยโก๋น อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน ประมาณ 35 กิโลเมตร เป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่ใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหิน ของบริษัทหงสา พาวเวอร์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตติดตั้ง 1,878 เมกะวัตต์ สูงที่สุดใน สปป.ลาว
โรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทบ้านปู พาวเวอร์ บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง และรัฐวิสาหกิจถือหุ้นลาว ในอัตราส่วน 40 : 40 : 20 ใช้เงินลงทุนรวมกว่า 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เฉพาะในตัวเมืองหงสา นอกจากประชากรที่อาศัยอยู่แต่ดั้งเดิมแล้ว ยังมีพนักงานที่ทำงานให้โรงไฟฟ้าหงสา และบริษัทผู้รับเหมาที่เป็นทั้งชาวลาว ไทย จีน เวียดนาม และอื่นๆ มากกว่า 3,000 คน
นอกจากนี้ เมืองหงสายังเป็นทางผ่านของถนนซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่สั้นที่สุดจากภาคเหนือของประเทศไทยไปยังเมืองมรดกโลกหลวงพระบาง ทำให้ทั่วตัวเมืองมีธุรกิจใหม่ๆ ที่เปิดขึ้นมารองรับกลุ่มคนเหล่านี้โดยเฉพาะเป็นจำนวนมาก ทั้งโรงแรม เรือนพัก ร้านอาหาร สถานบันเทิง ปั๊มน้ำมัน รวมถึงสาขาธนาคารพาณิชย์.