MGR Online - ศึกพม่ารบกับทัพอาระกันในรัฐยะไข่ ส่งผลกระทบถึงชาวบ้านในฝั่งบังกลาเทศ หลังเกิดเหตุกระสุนปืนครกลอยข้ามชายแดนไประเบิดใกล้บ้านหลังหนึ่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 6 คน 1 ในนี้เป็นเด็กชายชาวโรฮิงญา วัย 17 ปี
วานนี้ (16 ก.ย.) สำนักข่าว Narinjara ที่เน้นเสนอข่าวความเคลื่อนไหวในรัฐยะไข่ ภาคตะวันตกของพม่า ได้รายงานโดยอ้างข้อมูลจากเว็บไซต์ Dhaka Tribune ของบังกลาเทศ ว่าได้เกิดเหตุกระสุนปืนครกลูกหนึ่งถูกยิงข้ามชายแดนมาตกในดินแดนบังกลาเทศ ใกล้กับหลักหมุดแบ่งเขตแดนหมายเลขที่ 35
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.15 น. ของวันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 โดยกระสุนลูกดังกล่าวลอยมาตกใกล้บ้านหลังหนึ่งและเกิดระเบิดขึ้น เป็นผลให้มีพลเรือนบังกลาเทศเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 คน ผู้บาดเจ็บ 3 คน เป็นชาวโรฮิงญา และ 1 ในนี้เป็นเด็กชายอายุเพียง 17 ปี
กระสุนปืนครกที่ลอยมาตกในเขตบังกลาเทศ มาจากการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับทหารของกองทัพอาระกัน (AA) ในเมืองหม่องดอ ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ซึ่งมีชายแดนติดกับบังกลาเทศ
ในวันเดียวกัน (16 ก.ย.) ก่อนหน้าเหตุกระสุนปืนครกลอยข้ามแดนมาตกในเขตบังกลาเทศได้ไม่นาน ก็ได้เกิดเหตุชายชาวบังกลาเทศ วัย 22 ปีผู้หนึ่ง เดินไปเหยียบกับระเบิดที่ถูกวางไว้บริเวณชายแดนบังกลาเทศ-พม่า ขณะที่เขากำลังเดินจูงวัวที่เลี้ยงไว้ ส่งผลให้ขาขาด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนวัวถูกแรงระเบิดตายในที่เกิดเหตุ
กองทัพพม่าและกองทัพอาระกันเริ่มกลับมาสู้รบกันอีกครั้ง ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา หลังทั้ง 2 ฝ่ายได้หยุดยิงกันอย่างไม่เป็นทางการมานานกว่า 1 ปีครึ่ง โดยต้นเหตุของความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นมาใหม่ เกิดจากกรณีเครื่องบินของกองทัพอากาศพม่า ได้ยิงระเบิดไปตกยังค่ายของทหารอาระกันซึ่งตั้งอยู่ในป่าริมแม่น้ำสาละวิน ในจังหวัดผาปูน รัฐกะเหรี่ยง ห่างจากชายแดนไทยที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่มากนัก เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม
แรงระเบิดครั้งนั้นทำให้ทหารกองทัพอาระกันเสียชีวิตทันที 6 นาย ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนค่ายทหารที่ตั้งอยู่ได้รับความเสียหายทั้งหมด
ทหารอาระกันกลุ่มนี้ได้ข้ามฟากจากชายแดนด้านตะวันตก เพื่อมาฝึกทหารร่วมกับกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) กองพลที่ 5 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดผาปูน ในภาคตะวันออกของพม่า
เหตุระเบิดครั้งนั้นสร้างความไม่พอใจแก่กองทัพอาระกัน และเริ่มเปิดฉากโจมตีทหารพม่าในเมืองหม่องดอ รัฐยะไข่ ตามมาในเวลาเพียงไม่กี่วัน โดยให้เหตุผลว่าเป็นการโต้ตอบแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” จากนั้น สถานการณ์ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ขึ้นไปถึงเมืองปะแลตวะ ทางตอนใต้ของรัฐชิน กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง
หลัง 2 ฝ่ายเริ่มกลับมารบกันใหม่ มีกระสุนปืนครกที่ถูกยิงข้ามฟากไปตกในดินแดนบังกลาเทศเกิดขึ้นแล้ว 2 ครั้ง ในต้นเดือนกันยายน 2565 แต่โชคดีที่ไม่ไม่ผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีกรณีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพพม่าบินล้ำเข้าไปในเขตแดนบังกลาเทศเพื่อตีวงเลี้ยวกลับ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้สร้างความไม่พอใจแก่ฝ่ายบังกลาเทศ ถึงขั้นเรียกเอกอัครราชทูตพม่า ประจำบังกลาเทศ ไปรับทราบการประท้วงอย่างเป็นทางการ
กระทั่งเพิ่งมาเกิดกรณีเดียวกันขึ้นอีกครั้ง เมื่อวันศุกร์ที่ 16 กันยายน ซึ่งทำให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ.