รอยเตอร์ - สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าววันนี้ (16) ว่า ประเทศต่างๆ ควรดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้รายได้และอาวุธเข้าถึงกองทัพพม่าที่ปกครองประเทศด้วยการปราบปรามและข่มขู่คุกคามประชาชน
พม่าอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายนับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อต้นปีก่อน โดยทหารกำลังต่อสู้กับขบวนการต่อต้านที่สนับสนุนประชาธิปไตยและจับกุมฝ่ายตรงข้ามหลายพันคน ในขณะเดียวกัน พวกเขาต้องดิ้นรนเพื่อจัดการเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทั้งในประเทศและทั่วโลก
สหประชาชาติได้กล่าวหาว่ารัฐบาลทหารสังหารหมู่และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ แต่ทหารพม่ากล่าวว่า พวกเขากำลังต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายที่จงใจทำร้ายประเทศ
ในรายงานที่เผยแพร่ในวันศุกร์ (16) สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้กองทัพถูกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น และกล่าวว่ากองทัพพม่าล้มเหลวที่จะปกครองประเทศในวิถีทางที่มีความหมายและยั่งยืน หรือแก้ไขวิกฤตภาคการเงิน
รายงานยังแนะนำให้สมาชิกสหประชาชาติกำหนดมาตรการห้ามขายอาวุธและมาตรการคว่ำบาตรแบบเจาะจงเพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายธุรกิจของกองทัพเข้าถึงสกุลเงินต่างประเทศ
“ประชาคมระหว่างประเทศควรดำเนินการทุกขั้นตอนภายใต้อำนาจของตนเพื่อสนับสนุนประชาชนชาวพม่าและตอบรับข้อเรียกร้องในการโดดเดี่ยวทางการเงินของกองทัพ” รายงานของสำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติระบุ
สหรัฐฯ อังกฤษ แคนาดา และสหภาพยุโรป ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเป็นวงกว้างต่อพม่า แต่การค้ายังคงดำเนินอย่างต่อเนื่องกับประเทศเพื่อนบ้าน และหลายประเทศยังคงจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้รัฐบาลทหาร โดยรายงานระบุว่า รัสเซียได้จัดหาเครื่องบินขับไล่และยานเกราะให้พม่า ส่วนจีนส่งมอบเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินขนส่ง เซอร์เบียจัดหาจรวดและกระสุนปืนใหญ่ และสถานีป้องกันภัยทางอากาศระยะไกลจากอินเดีย.