เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่เวียดนามเผยวันนี้ (29) ว่าเศรษฐกิจของประเทศในไตรมาสที่ 2 ขยายตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 11 ปี ที่เป็นผลจากการฟื้นตัวของการส่งออกและการยกเลิกมาตรการข้อจำกัดเกี่ยวกับโควิด-19
การเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศคอมมิวนิสต์และยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตแห่งนี้ ได้หยุดชะงักอยู่ที่ประมาณ 3% เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน เนื่องจากโรคระบาดที่ทำให้เกือบทั้งโลกต้องหยุดชะงัก และทางการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวด
แต่วันนี้ (29) สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนามระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศขยายตัว 7.72% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าระหว่างเดือน เม.ย.-มิ.ย. นับว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดตั้งแต่ปี 2554 และการส่งออกขยายตัว 21% ที่มูลค่า 96,800 ล้านดอลลาร์ ในไตรมาสที่ 2 นี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติยังระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปีอยู่ที่ 6.42% เทียบกับช่วงเวลาก่อนเกิดการระบาดในปี 2562 ซึ่งมีอัตราเติบโตที่ 7%
เมื่อต้นเดือน ธนาคารโลกระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเวียดนามจะยังคงแข็งแกร่งแม้จะมีความไม่แน่นอนที่เกิดจากสงครามในยูเครน การล็อกดาวน์ในจีน และอัตราเงินเฟ้อ
แต่ในขณะเดียวกัน ธนาคารโลกเรียกร้องให้ทางการระมัดระวังเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมันและราคานำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น และเตือนว่าสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคของเวียดนามเพิ่มขึ้น 2.96% ในไตรมาสที่ 2
“ค่าครองชีพสูงขึ้นมากเนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น มันแย่มากที่ฉันต้องใช้เงินเพิ่มขึ้น 10% เพื่อดูแลครอบครัวโดยที่รายได้ยังเท่าเดิมไม่เปลี่ยน หากสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ต่อไป เราจะใช้ชีวิตลำบากมาก” เหวียน ถิ เฮียน พนักงานบริษัทเอกชนในกรุงฮานอย กล่าวกับเอเอฟพี
เวียดนามเปิดประเทศอีกครั้งในกลางเดือน มี.ค. หลังปิดประเทศเกือบ 2 ปี และทางการกรุงฮานอยตั้งเป้าการเติบโตของจีดีพีในสิ้นปีไว้ที่ 6.5%.
