MGR Online - ทหารพม่าเปิดฉากสู้รบกับกองทัพกะเหรี่ยงในหลายพื้นที่ของเมียวดีต่อเนื่อง 3 วัน หลังฐานที่บ้านมอคีถูก KNLA 6 ตีแตก ล่าสุด ทัพพม่าใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มแต่กระสุนตกใส่หมู่บ้าน ทำหญิงวัย 17 ปี เสียชีวิตคาที่
สถานการณ์ในจังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประตูการค้าไทย-พม่าที่มีมูลค่าสูงที่สุด กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังเกิดการสู้รบหนักระหว่างทหารพม่ากับกองทหารกะเหรี่ยงในหลายพื้นที่ ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม กระทั่งถึงวันนี้ (24 มี.ค.) ยังคงมีการปะทะกันอยู่ ส่งผลให้มีชาวบ้านเสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ
ทหารกะเหรี่ยงที่เข้ารบกับทหารพม่ารอบนี้มาจากหลายกลุ่มที่ได้สนธิกำลังกัน ทั้งจากกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) องค์กรป้องกันแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNDO) และกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเพื่อประชาธิปไตย (DKBA)
กลางดึกของคืนวันที่ 23 มีนาคม มีการรบหนักที่บ้านแม่ทอดตะเล และบ้านเลเกก่อ ทิศใต้ของตัวเมืองเมียวดี การปะทะเกิดขึ้นต่อเนื่องถึงตอนเช้าของวันนี้
โดยในตอนเช้าตรู่วันนี้ เวลาประมาณ 05.00 น. ทหารพม่าใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มฐานที่มั่นของ KNLA ทางใต้ของเมียวดี แต่ปรากฏว่ามีกระสุนปืนใหญ่พลาดไปตกใส่หมู่บ้านทีมูทา สะเก็ดระเบิดกระเด็นไปถูกศีรษะของหญิงสาวอายุ 17 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในบ้านเสียชีวิตคาที่ นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย เป็นเด็กผู้หญิง 1 ราย กับสามี-ภรรยาอีกคู่หนึ่ง
การสู้รบในพื้นที่เมียวดีเริ่มรุนแรงขึ้นหลังจากวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งทหารจากกองพลที่ 6 KNLA สนธิกำลังกับทหาร KNDO และ DKBA บุกโจมตีฐานที่มั่นทหารพม่า ที่บ้านมอคี ตำบลวาเลย์ อำเภอซูกะลี จังหวัดเมียวดี ตรงข้ามกับอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ส่งผลให้มีทหารพม่าเสียชีวิตอย่างน้อย 8 นาย ฝ่ายกะเหรี่ยงสามารถยึดฐาน ตลอดจนอาวุธ ยุทโธปกรณ์ของกองทัพพม่าได้หลายรายการ จากนั้น กองทัพพม่าได้เสริมกำลังพลจำนวนมากเข้ามาในจังหวัดเมียวดี ทั้งในพื้นที่ตำบลวาเลย์ ที่บ้านเลเกก่อ รวมถึงพื้นที่อำเภอกอกะเรก อำเภอจาอินเซะจี จังหวัดกอกะเรก
มีรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมเป็นต้นมาจนถึงขณะนี้ มีการสู้รบระหว่างทหารพม่ากับทหารกะเหรี่ยงในหลายพื้นที่ของจังหวัดเมียวดี และจังหวัดกอกะเร็ก รวมถึงตามแนวถนน AH1 หรือถนนสายอาเซียน ตั้งแต่เมืองเมียวดี ผ่านเมืองติงกานหญี่หน่อง ไปถึงเมืองกอกะเรก
บริเวณแนวชายแดนไทย-พม่า บริเวณบ้านมอคี ตำบลวาเลย์ ตรงข้ามอำเภอพบพระ มีรายงานว่า วันนี้มีประชาชนจำนวนมากพากันอพยพมาหลบภัยอยู่ตามแนวชายแดน เนื่องจากกองทัพพม่าได้นำเครื่องบินมาบินวนเวียนอยู่เหนือค่ายทหารที่เพิ่งถูกตีแตกไปเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ทำให้ชาวบ้านเหล่านี้กลัวจะมีการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้น จึงหนีออกจากหมู่บ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่จากฝั่งไทยนำอาหารแห้ง ของใช้ที่จำเป็นไปให้ความช่วยเหลือแก่ชาวบ้านเหล่านี้ เพื่อบรรเทาความลำบาก
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม มีกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายได้ใช้อาวุธหนักโจมตีรถบรรทุกสินค้า 2 คัน รถโดยบัสโดยสารอีก 1 คัน บนถนน AH1 บริเวณน้ำตกตอหน่อ ช่วงระหว่างเมืองเมียวดีไปยังเมืองกอกะเรก รถทั้ง 3 คัน ถูกเผาได้รับความเสียหายหมด ทั้งสินค้าและตัวรถ
ทหารพม่าต้องปิดการจราจรบนถนน AH1 ตลอดทั้งวันเพื่อส่งกำลังพลลงพื้นที่ตรวจสอบหาผู้ก่อเหตุ ทำให้การขนส่งสินค้าจากไทยที่ส่งเข้าไปในพม่า ได้รับผลกระทบ.