คำกล่าวอ้างของรัสเซียเกี่ยวกับการใช้ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกในยูเครน เป็นเพียงหนทางในการเรียกคืนกระแสสงคราม แต่อาวุธล้ำสมัยนี้ไม่ได้พิสูจน์ว่าเป็น "ตัวเปลี่ยนเกม" ของความขัดแย้ง จากความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในวันอาทิตย์ (20 มี.ค.)
มอสโกอ้างว่ายิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก 2 ลูกในยูเครน และแม้ ลอยด์ ออสติน รัฐมตรีว่าการกระทวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ยืนยันหรือโต้แย้งว่ารัสเซียใช้อาวุธดังกล่าวจริงหรือไม่ แต่เขาเตือนว่าปฏิบัติการรุกรานของวลาดิมีร์ ปูติน กำลังมีการเปลี่ยนแปลงในยุทธวิธี ในนั้นรวมถึงเล็งเป้าหมายไปที่พลเรือน
การใช้ขีปนาวุธที่ยากจะสกัดกั้นของรัสเซีย เป็นการยกระดับอันน่าตื่นตะลึงในการทำสงครามของรัสเซีย ซึ่งมีเป้าหมายบีบให้ยูเครนละทิ้งความหวังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตะวันตกมากขึ้น
"แต่ผมไม่มองมันในฐานะตัวเปลี่ยนเกม" ออสติน ให้สัมภาษณ์กับรายการทอล์กโชว์ "Face the Nation." ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส "ผมคิดว่าเหตุผลที่เขาเลือกใช้อาวุธชนิดนี้ก็เพราะว่าเขาพยายามกอบกู้กระแสบางอย่าง" เขากล่าว "และอีกครั้ง เราเห็นเขาโจมตีหมู่บ้านเมืองต่างๆ และพลเมืองไม่ยั้ง และเราคาดหมายว่าจะยังพบเห็นเรื่องแบบนี้ต่อไปอีก"
กองทัพที่ขาดแคลนอาวุธของยูเครนสามารถต้านทานอย่างดุเดือดแบบที่ไม่มีใครคาคคิด และชะลอการรุกคืบของรัสเซีย ทำให้ทหารของรัสเซียยังคงโอบล้อมอยู่บริเวณด้านนอกกรุงเคียฟและเมืองอื่นๆ อีกหลายแห่ง ส่งผลให้เส้นทางส่งกำลังบำรุงของรัสเซียอ่อนแอเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยฝ่ายยูเครน "ชาวยูเครนยังคงทำให้กองกำลังของปูตินสะดุด และพวกเขาใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่เรามอบให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก"
ออสติน เดินทางไปยังยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในความพยายามกระชับความสามัคคีภายในนาโต้ และเสริมความเข้มแข็งแก่ปีกตะวันออกของพันธมิตรแห่งนี้
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศมอบเงินช่วยเหลือด้านความมั่นคงก้อนใหม่อีก 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐแก่ยูเครน ตอบสนองต่อคำร้องของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่ขอความช่วยเหลือด้านการทหารเพิ่มเติม ส่งผลให้ยอดรวมเงินช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่มอบให้แก่ยูเครน เพิ่มเป็น 1,000 ล้านดอลลาร์แล้วในเดือนนี้
ด้วยที่ ปูติน และรัสเซีย อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรลงโทษของตะวันตก มีรายงานข่าวว่า มอสโกขอความช่วยเหลือด้านการทหารและเศรษฐกิจจากจีน ในการทำสงคราม คำกล่าวอ้างที่ทางปักกิ่งปฏิเสธ
ในหนทางความเป็นไปได้ที่จะเสริมกำลังแก่ฝ่ายตนเอง มีคำกล่าวอ้างจากกลุ่มเฝ้าระวังสงครามกลุ่มหนึ่ง ระบุว่า รัสเซียกำลังเกณฑ์บุคลากรทางทหารของซีเรียและนักรบกลุ่มติดอาวุธพันธมิตรหลายพันนาย ในความเป็นไปได้ที่จะเข้าประจำการร่วมสู้รบในยูเครน
"เราได้ยินเรื่องนี้มาจากแหล่งข่าวหลายแหล่ง" ออสตินกล่าว "แต่เท่าที่ผมทราบ เรายังไม่พบเห็นทหารจับจ้างในสนามรบ"
(ที่มา : เอเอฟพี)