รอยเตอร์ - สถานีโทรทัศน์ของทางการพม่ารายงานว่า กองทัพเรือของประเทศได้เข้ายึดเรือลำหนึ่งที่มีชาวโรฮิงญาโดยสารอยู่บนเรือ 228 คน และจับกุมทุกคนบนเรือในวันนี้ (29) ที่นับเป็นความพยายามล่าสุดของสมาชิกชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมที่จะเดินทางออกนอกประเทศ
สถานีโทรทัศน์ MRTV รายงานว่า มีเด็ก 33 คน รวมอยู่ในกลุ่มผู้ที่ถูกควบคุมตัวได้ในน่านน้ำใกล้เมืองสิตตะเวทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ รวมทั้งคนเรืออีก 5 คน โดยทั้งหมดถูกส่งตัวให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง
โฆษกของรัฐบาลทหารพม่าไม่ได้ตอบสนองต่อการติดต่อของรอยเตอร์เพื่อขอความคิดเห็น ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นได้ยืนยันถึงเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ภาพถ่ายที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์เผยให้เห็นผู้คนเบียดเสียดกันอยู่บนพื้นเรือ รวมถึงผู้หญิงหลายคนกำลังอุ้มเด็กเล็ก ภาพที่ทำให้นึกถึงการเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตรายของชาวโรฮิงญาที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในปี 2563 มีชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 32 คน เสียชีวิตบนเรือที่ลอยลำอยู่นานหลายสัปดาห์หลังไม่สามารถเดินทางไปถึงมาเลเซียได้
พม่าไม่ยอมรับว่าชาวโรฮิงญาเป็นพลเมือง และพวกเขาต้องเผชิญกับการควบคุมเสรีภาพในการเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวด ตลอดจนการเข้าถึงการดูแลสุขภาพและการศึกษา
พม่าปฏิเสธว่าไม่ได้กดขี่ข่มเหงชาวโรฮิงญา และกล่าวว่า คนเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมืองแต่เป็นผู้อพยพมาจากเอเชียใต้ แม้ว่าชาวโรฮิงญาจำนวนมากจะสามารถตรวจสอบบรรพบุรุษย้อนกลับไปได้หลายศตวรรษก็ตาม
ชาวโรฮิงญามากกว่า 730,000 คน อพยพออกจากพม่าไปบังกลาเทศในปี 2560 เพื่อหลบหนีการปราบปรามของกองทัพ ที่ผู้สอบสวนสหประชาชาติได้กล่าวว่า เป็นปฏิบัติการที่มีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และรวมถึงการสังหารหมู่และการข่มขืน แต่พม่าปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และระบุว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาเท่านั้น.
