เอเจนซีส์ - วานนี้ (18 พ.ย.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ชี้วอชิงตันกำลังพิจารณามาตรการบอยคอตทางการทูตสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมฤดูหนาว ที่ปักกิ่งเป็นเจ้าภาพในปี 2022 เพื่อตอบโต้การกดขี่อย่างไร้มนุษยธรรมที่มีต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมอุยกูร์ ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูของจีน
CNBC สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (18 พ.ย.) ว่า ภายใต้มาตรการบอยคอตทางการทูต (diplomatic boycott) นักกีฬาสหรัฐฯ จะยังคงเข้าร่วมในการแข่งขันที่เปิดฉากขึ้นในวันที่ 4 ก.พ ปี 2022 โดยปักกิ่งเป็นเจ้าภาพ แต่ทว่าจะไม่มีคณะตัวแทนจากรัฐบาลสหรัฐฯ เข้าร่วม
ความคิดการใช้มาตรการบอยคอตทางการทูตเกิดครั้งแรกในเดือนเมษายน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ในเวลานั้นเปิดเผยว่า สหรัฐฯ กำลังเจรจากับพันธมิตรสำคัญเพื่อหาทางประท้วงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของจีนในการแข่งกีฬาปักกิ่งโอลิมปิกฤดูหนาว
แต่วันพฤหัสบดี (18) ถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เป็นผู้ออกมายืนยันด้วยตัวเองถึงแนวความคิดนี้ที่ว่า “เป็นบางสิ่งที่พวกเรากำลังพิจารณา”
เขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่ป้อนคำถามเข้ามาระหว่างไบเดน พบกับนายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด ภายในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว
ซึ่งก่อนหน้าของสัปดาห์ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานว่า การบอยคอตทางการทูตน่าจะเกิดขึ้นได้ก่อนสิ้นเดือนพฤศจิกายน
ที่ผ่านมา นักสิทธิมนุษยชนทั่วโลกต่างออกมาเรียกร้องให้ทั่วโลกร่วมกันบอยคอตปักกิ่งโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 โดยขนานนามการแข่งที่ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงภาคภูมิใจว่า “เป็นการแข่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” โดยคนเหล่านี้ได้กดดันไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ICC ให้เลื่อนการจัดการแข่งออกไป หรือเปลี่ยนสถานที่การจัด
แต่ทว่าชาติตะวันตกต่างออกมาปฏิเสธแนวความคิดการบอยคอตการแข่งทั้งหมดเพราะถือว่าเป็นการลงโทษที่ไม่เป็นธรรมต่อนักกีฬาในสิ่งที่ประเทศเจ้าภาพเป็นผู้กระทำผิด
ทั้งนี้ การออกมาประกาศของไบเดนในเรื่องการบอยคอตทางการทูตสำหรับการแข่งโอลิมปิกฤดูหนาวของจีนเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังเขาประชุมซัมมิตสุดยอดผู้นำสหรัฐฯ-จีนทางออนไลน์ในคืนวันจันทร์ (15)
ซึ่งในภายหลังโฆษกทำเนียบขาวออกมายืนยันว่า ระหว่างการหารือที่กินเวลาไม่กี่ชั่วโมงไม่มีการนำประเด็นการแข่งปักกิ่งโอลิมปิกฤดูหนาวขึ้นมาพูดคุย