xs
xsm
sm
md
lg

ออสเตรเลียยืนยันพบผู้ติดเชื้อโอไมครอน มาจากแอฟริกาตอนใต้-ได้วัคซีนครบแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี – ออสเตรเลียพบผู้ติดโควิดสายพันธุ์ “โอไมครอน” ครั้งแรก เป็นผู้โดยสาร 2 คนที่เดินทางกลับจากแอฟริกาตอนใต้และฉีดวัคซีนครบแล้ว โดยเดินทางถึงซิดนีย์ในวันเดียวกับที่แดนจิงโจ้ประกาศแบนเที่ยวบินจาก 9 ประเทศในแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งรวมถึงแอฟริกาใต้และซิมบับเว

เจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาธ์เวลส์เผยว่า ได้ทำการตรวจวิเคราะห์พันธุกรรมเร่งด่วนและยืนยันว่า นักเดินทางทั้งสองคนที่เดินทางจากแอฟริกาตอนใต้ด้วยเที่ยวบินของกาตาร์ แอร์เวย์ผ่านโดฮาถึงซิดนีย์เมื่อวันเสาร์ (27 พ.ย.) ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแบบไม่แสดงอาการ และขณะนี้เข้ากักตัวในพื้นที่พิเศษแล้ว เจ้าหน้าที่เสริมด้วยว่า ผู้ติดเชื้อทั้งคู่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว

ส่วนผู้โดยสารอีก 12 คนที่เดินทางจากแอฟริกาตอนใต้ในเที่ยวบินเดียวกัน ผลตรวจโควิดออกมาเป็นลบ แต่เข้ารับการกักตัว เช่นเดียวกับผู้โดยสารและลูกเรือราว 260 คนในเครื่องบินลำนั้น

เที่ยวบินดังกล่าวลงจอดในซิดนีย์วันเดียวกับที่ออสเตรเลียประกาศแบนเที่ยวบินจาก 9 ประเทศในแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งรวมถึงแอฟริกาใต้และซิมบับเว

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า โอไมครอนเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลและต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์กว่าจะรู้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการแพร่ระบาด อาการรุนแรง หรือมีความเกี่ยวพันกับวัคซีน การตรวจ และการรักษาอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่

การตรวจพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ยังเกิดขึ้นเพียงหนึ่งเดือนหลังจากออสเตรเลียยกเลิกคำสั่งห้ามพลเมืองเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งกำหนดเปิดประเทศรับแรงงานมีทักษะและนักศึกษาต่างชาติในช่วงปลายปีนี้ โดยหลังจากปิดพรมแดนมากว่า 18 เดือน ชาวออสเตรเลียที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้โดยไม่ต้องขออนุญาตอีกต่อไป

สำหรับชาวออสเตรเลียที่เดินทางกลับประเทศนั้น จะต้องกักตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่า จุดหมายปลายทางอยู่ที่ใด กล่าวคือขณะที่ซิดนีย์ยกเลิกการกักตัวนักเดินทางที่เดินทางกลับประเทศ แต่รัฐอื่นๆ ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำยังบังคับให้นักเดินทางกักตัวในโรงแรมที่จัดไว้ให้นาน 14 วัน

อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า การพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนจะทำให้ออสเตรเลียกลับมาบังคับใช้มาตรการเข้มงวดหรือไม่

ระหว่างแถลงก่อนได้รับการยืนยันพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนไม่กี่ชั่วโมง โดมินิก เพอร์ร็อตเทต มุขมนตรีนิวเซาธ์เวลส์ ดูเหมือนยังลังเลที่จะบังคับใช้ข้อจำกัดใหม่ๆ โดยกล่าวว่า ออสเตรเลียจำเป็นต้องเรียนรู้การอยู่ร่วมกับไวรัสที่จะมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา

การระบาดของโอไมครอนอย่างรวดเร็วในกลุ่มคนหนุ่มสาวในแอฟริกาใต้เป็นสัญญาณเตือนภัยในหมู่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ แม้ยังไม่พบสิ่งบ่งชี้ว่า สายพันธุ์นี้ทำให้ผู้ติดเชื้อป่วยรุนแรงขึ้นหรือไม่ก็ตาม

บริษัทยาซึ่งรวมถึงแอสตราเซเนกา โมเดอร์นา โนวาแว็กซ์ และไฟเซอร์ ต่างเปิดเผยว่า มีแผนปรับวัคซีนเพื่อรับมือโอไมครอน โดยไบโอเอ็นเทคที่เป็นพันธมิตรกับไฟเซอร์ คาดว่า จะสามารถปรับวัคซีนได้ภายใน 100 วัน

แอนดรูว์ พอลลาร์ด ผู้อำนวยการออกซ์ฟอร์ด วัคซีน กรุ๊ป ที่พัฒนาวัคซีนแอสตราเซเนกา แสดงความเห็นแง่บวกว่า วัคซีนแอสตราเซเนกาควรมีประสิทธิภาพต่อต้านโอไมครอน แต่จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกหลายสัปดาห์จึงจะยืนยันได้

ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่า การอุบัติของไวรัสสายพันธุ์ใหม่สะท้อนว่า การที่ชาติรวยกักตุนวัคซีนอาจทำให้วิกฤตโรคระบาดยิ่งยืดเยื้อ โดยขณะนี้มีประชากรไม่ถึง 6% ในแอฟริกาฉีดวัคซีนครบโดส แต่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนกลุ่มเสี่ยงยังไม่ได้ฉีดแม้แต่เข็มเดียว ซึ่งสถานการณ์นี้จะเพิ่มความเสี่ยงให้ไวรัสกลายพันธุ์และอันตรายยิ่งขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น