เอเอฟพี - นครโฮจิมินห์ยกเลิกคำสั่งอยู่กับบ้านแล้วในวันนี้ (1) คำสั่งที่ทำให้ชาวเมืองกว่า 9 ล้านคนต้องอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 3 เดือน และทำให้ธุรกิจของเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศแห่งนี้ได้รับความเสียหาย
เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อมหานครทางใต้แห่งนี้ ชาวเมืองไม่สามารถออกจากบ้านได้ แม้กระทั่งออกไปจับจ่ายหาซื้ออาหาร และการเดินทางเข้าและออกจากพื้นที่ถูกระงับเกือบทั้งหมด
เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสม 790,000 คน ของประเทศ พบในนครโฮจิมินห์ รวมถึง 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตจากโควิดทั้งหมดของประเทศ
แต่หลังจากเคสผู้ป่วยติดเชื้อค่อยๆ ลดลง ทหารเริ่มรื้อสิ่งกีดขวางบนถนนออกในวันศุกร์ (1) และรื้อด่านตรวจหลายร้อยจุดที่กระจายอยู่ตามเขตต่างๆ ของเมือง
“ผมมีความสุขมาก” เจิ่น วัน หวู เจ้าของร้านขายผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ ที่วางแผนจะขยายธุรกิจก่อนการระบาด กล่าว
“ช่วงล็อกดาวน์บริษัทของเราได้รับผลกระทบมาก เรามีคนงานจัดส่งสินค้าไม่เพียงพอ เนื่องจากต้องทำการตรวจหาเชื้อทุกๆ 2 วัน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายสูงสำหรับบริษัท” เจิ่น วัน หวู กล่าว
การจราจรบนถนนหลายสายกลับมาหนาแน่นเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนหลังธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการได้ และประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วได้รับอนุญาตให้เดินทางได้อย่างเสรีภายในเมือง
แต่เจ้าหน้าที่ยังคงห้ามการเดินทางไปต่างจังหวัด ทำให้หลายพันครอบครัวที่เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์กระจุกตัวกันอยู่ที่ด่านตรวจตรงทางออกเมือง ด้วยหวังที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา
เวียดนามเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นต้นแบบของการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส แต่ประเทศกำลังพยายามอย่างหนักที่จะหยุดยั้งการแพร่กระจายของการระบาดระลอก 4 ที่เริ่มขึ้นในเดือน เม.ย. ที่นิคมอุตสาหกรรมทางตอนเหนือของประเทศ และแพร่ลงมาทางใต้อย่างรวดเร็ว
มากกว่า 1 ใน 3 ของประชากรราว 100 ล้านคนของเวียดนาม อยู่ภายใต้คำสั่งอยู่กับบ้านในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตที่สำคัญของประเทศต้องหยุดชะงักและส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน
เศรษฐกิจของประเทศหดตัวหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 3 ตามการระบุของเจ้าหน้าที่
ทั้งนี้ โรงงานต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรมและบริการขนส่งสินค้าอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้เปิดทำการ
แม้จะมีชาวเวียดนามไม่ถึง 10% ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วน แต่นครโฮจิมินห์ได้รับการจัดสรรวัคซีนเป็นจำนวนมาก ที่ทำให้ผู้ใหญ่เกือบทั้งหมดของเมืองได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว.