กาญจนบุรี - ผู้ว่าฯ กาญจน์ ประกาศคำสั่งรวดเดียว 2 ฉบับ ทำผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออกสินค้าทุกชนิดชายแดนด่านเจดีย์สามองค์เฮ หลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ส่วน 5 อำเภอเมืองชายแดนเปิดแล้วเช่นกัน
วันนี้ (28 ก.ย.) นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ลงนามในประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 4726/2564 เรื่อง เปิดอำเภอในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีข้อมูลดังนี้ อนุสนธิคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3674/2564 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2564 เรื่อง ปิดอำเภอในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงนั้น
เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พบผู้ติดเชื้อลดลงและมีแนวโน้มดีขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (1) และ (7) และ 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ประกอบข้อ 7 (1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 และข้อ 11 (ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2564
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี จึงยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3674/2564 ลงวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2564 เรื่อง ปิดอำเภอในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และมีคำสั่งให้เปิดอำเภอในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้ตามปกติ ดังนี้ 1.ตำบลจรเข้เผือก อำเภอด่านมะขามเตี้ย 2.ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี 3.อำเภอสังขละบุรี 4.อำเภอทองผาภูมิ และ 5.อำเภอไทรโยค
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2564
เวลาเดียวกัน นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านจังหวัดกาญจนบุรี ได้ลงนามในประกาศคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 4730/2564 เรื่อง เปิดหมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และเปิดการใช้ช่องทางสำหรับการนำข้า-ส่งออกขนส่งสินค้า และสินค้าผ่านแดนทุกประเภท ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
และประกาศยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 3401/2564 ลงวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ.2564 เรื่อง ปิดหมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เป็นการชั่วคราว และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 4477/2564 ลงวันที่ 14 กันยายน พ.ศ.2564 เรื่อง ผ่อนผันการระงับการใช้ช่องทางสำหรับการนำเข้า-ส่งออกขนส่งสินค้า และสินค้าผ่านแดนทุกประเภท ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี และมีคำสั่งดังนี้
1.ให้เปิดหมู่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ได้ปกติ 2.ให้เปิดการใช้ช่องทางสำหรับการนำเข้า-ส่งออกขนส่งสินค้า และสินค้าผ่านแดนทุกประเภท ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ได้ปกติ
3.ให้เปลี่ยนตัวพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถรวมไม่เกิน 2 คน โดยให้เปลี่ยนถ่ายสินค้าในลักษณะท้ายชนท้ายรถ ณ จุดผ่อนปรนทางการค้าด่านพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ซึ่งต้องผ่านการตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และข้อปฏิบัติด้านสุขอนามัยในเรื่องการคัดกรองผู้ติดเชื้อ การล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย หรือหลักการของ Social Distancing และจะต้องทำการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคยานพาหนะทั้ง 2 ฝ่าย และให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างประเทศโดยเคร่งครัด
ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นรีบด่วน หากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้อาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2564