xs
xsm
sm
md
lg

‘แฮร์ริส’ รอง ปธน.สหรัฐฯ เยือนเวียดนามตามแผน แม้มีเหตุการณ์ด้านสุขภาพลึกลับในฮานอย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์ - การเยือนเวียดนามของ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนในวันนี้ (24) หลังการเดินทางถูกเลื่อนเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ด้านสุขภาพที่ไม่สามารถอธิบายได้ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาการฮาวานาที่เป็นปริศนา 

แฮร์ริส ที่กระตือรือร้นจะแสวงหาพันธมิตรเพื่อคานอำนาจจีน เดินทางถึงเมืองหลวงของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังล่าช้าไป 3 ชั่วโมงในสิงคโปร์ และคำแถลงที่ไม่ปกติจากสถานทูตสหรัฐฯ ในเวียดนาม ที่กล่าวโทษ “เหตุการณ์ด้านสุขภาพที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นไม่นานนี้” สำหรับความล่าช้าที่เกิดขึ้น

“เหตุการณ์ด้านสุขภาพที่ผิดปติ” เป็นคำที่รัฐบาลสหรัฐฯ มักใช้เพื่ออธิบายกลุ่มอาการฮาวานา หรือฮาวานาซินโดรม (Havana Syndrome) สภาวะผิดปกติของอาการในร่างกาย เช่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ไมเกรน และสูญเสียความทรงจำ โดยกลุ่มอาการดังกล่าวได้ชื่อเช่นนี้จากการพบครั้งแรกในหมู่เจ้าหน้าที่ประจำสถานทูตสหรัฐฯ ในคิวบา เมื่อปี 2559

“สำนักงานของรองประธานาธิบดีได้รับทราบรายงานเหตุการณ์ด้านสุขภาพที่ผิดปกติในกรุงฮานอย เวียดนาม หลังจากการประเมินอย่างรอบคอบแล้ว ได้ตัดสินใจให้การเดินทางของรองประธานาธิบดีดำเนินต่อไป” คำแถลงของสถานทูตสหรัฐฯ ระบุ โดยไม่ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

โฆษกของแฮร์ริสปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงเหตุผลของความล่าช้า

วิลเลียม เบิร์นส ผู้อำนวยการซีไอเอ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และญาติราว 200 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ซีไอเอ เคยล้มป่วยด้วยอาการฮาวานาซินโดรม และเมื่อเดือน ธ.ค. สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐฯ พบทฤษฎีหนึ่งที่อาจเป็นไปได้ว่ากลุ่มอาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการใช้ลำแสงพลังงานแบบควบคุม

เบิร์นส มองว่ามีความเป็นไปได้อย่างมากที่กลุ่มอาการนี้เกิดขึ้นด้วยความตั้งใจและรัสเซียอาจอยู่เบื้องหลัง แต่อย่างไรก็ตาม เบิร์นสเสริมว่าเขายังไม่สามารถให้ข้อสรุปอย่างชัดเจนได้เนื่องจากต้องรอการสืบสวนเพิ่มเติม ทั้งนี้ รัสเซียได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในขณะที่วอชิงตันมีความสัมพันธ์ที่เยือกเย็นกับจีน

ขณะที่การเดินทางเยือนเวียดนามของแฮร์ริสล่าช้า นายกรัฐมนตรีฝ่าม มีง จีง ของเวียดนาม ได้จัดการประชุมหารือโดยไม่แจ้งล่วงหน้ากับเอกอัครราชทูตจีน เจียง โป โดยระหว่างการประชุม นายกฯ จีง กล่าวว่าเวียดนามไม่เข้าร่วมกับประเทศหนึ่งประเทศใด

ในช่วงเช้าวันนี้ (24) แฮร์ริสได้กล่าวหาปักกิ่งใช้วิธีการบังคับและข่มขู่เพื่ออ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้ นับเป็นความเห็นเกี่ยวกับจีนที่ตรงไปตรงมาที่สุดของแฮร์ริสระหว่างการเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคที่เธอกล่าวว่ามีความสำคัญต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ

“นายกรัฐมนตรียืนยันว่า เวียดนามยึดมั่นต่อนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ พึ่งพาตนเอง พหุภาคี และมีความหลากหลาย และเป็นสมาชิกที่รับผิดชอบของประชาคมระหว่างประเทศ” รัฐบาลเวียดนามระบุในคำแถลง

“เวียดนามไม่เข้าร่วมกับประเทศหนึ่งเพื่อต่อต้านประเทศหนึ่ง” คำแถลงระบุ

ข้อพิพาทดินแดนในทะเลจีนใต้ควรได้รับการแก้ไขตามกฎหมายระหว่างประเทศและสามัญสำนึกระดับสูง คำแถลงระบุ และเสริมว่าจีนจะให้การสนับสนุนด้านวัคซีนโควิด-19 แก่เวียดนาม

ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ ระบุว่าการแข่งขันกับจีนถือเป็นบททดสอบทางภูมิรัฐศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดของศตวรรษ

“ข้อเท็จจริงที่ว่าเอกอัครราชทูตจีนยืนยันที่จะพบหารือกับนายกรัฐมนตรีของเวียดนามไม่นานก่อนที่แฮร์ริสจะเดินทางถึง แสดงให้เห็นว่าปักกิ่งวิตกกังวลว่าเพื่อนบ้านคอมมิวนิสต์ของตนอาจเอนเอียงไปทางสหรัฐฯ” เมอร์เรย์ เฮียเบิร์ต ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของศูนย์ยุทธศาสตร์และกิจการระหว่างประเทศศึกษา (CSIS) ระบุ

ระหว่างการประชุม นายกฯ จีง ได้กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตสำหรับการบริจาควัคซีนปองกันโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดส โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าก่อนหน้านี้

เวียดนามประสบความสำเร็จในการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้เป็นส่วนใหญ่ในปีที่ผ่านมา แต่นับตั้งแต่เดือน เม.ย. เวียดนามต้องรับมือกับการระบาดครั้งใหญ่จากสายพันธุ์เดลตาในนครโฮจิมินห์ และมีประชาชนไม่ถึง 2% จากประชากรทั้งหมด 98 ล้านคนของประเทศ ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม.






กำลังโหลดความคิดเห็น