จีนตอกกลับรองประธานาธิบดีหญิงของสหรัฐฯ อย่างเจ็บแสบในวันอังคาร (24 ส.ค.) ว่า ให้ดูตัวอย่างนโยบายการต่างประเทศของวอชิงตันว่า “เห็นแก่ตัว” ขนาดไหน จากการที่อเมริกันถอนตัวอย่างโกลาหลอลหม่านออกจากอัฟกานิสถานเวลานี้ ภายหลังรองประมุขอเมริกากล่าวหาปักกิ่งว่าใช้วิธีการ “บังคับและข่มขู่” เพื่ออ้างสิทธิเหนือทะเลจีนใต้อย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ของสหรัฐฯ กำลังอยู่ระหว่างเยือนสิงคโปร์และเวียดนามเป็นเวลา 7 วัน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแสดงถึงการคานอำนาจกับจีน รวมทั้งมุ่งส่งเสริมให้กำลังใจชาติในภูมิภาคที่ไม่พอใจการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำและหมู่เกาะต่างๆ ในทะเลจีนใต้
ในเช้าวันอังคาร (24) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่แฮร์ริสเยือนสิงคโปร์ เธอได้กล่าวคำปราศรัยเกี่ยวกับเป้าหมายสำคัญๆ ในนโยบายการต่างประเทศของคณะบริหารประธานาธิบดีโจ ไบเดน โดยเธอย้ำว่า สหรัฐฯ มีพันธะผูกพันอย่างถาวรกับเอเชีย และนี่เป็นอีกหนึ่งภูมิภาคที่ “สำคัญยิ่ง” ต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน เนื้อหาในคำปราศรัยของเธอก็มีการวิพากษ์วิจารณ์จีนแบบตรงไปตรงมา
“เราทราบกันดีว่า ปักกิ่งยังคงใช้วิธีบีบบังคับและข่มขู่ เพื่ออ้างสิทธิเหนือพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้” แฮร์ริส บอก
“การกล่าวอ้างอย่างผิดกฎหมายเหล่านี้เคยถูกหักล้างโดยคำพิพากษาของศาลอนุญาโตตุลาการเมื่อปี 2016 ทว่าปักกิ่งก็ยังคงกระทำในสิ่งที่เป็นการบั่นทอนกฎระเบียบสากล และคุกคามอธิปไตยของชาติอื่นๆ เรื่อยมา”
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนซึ่งไม่เคยรับรองอำนาจการพิจารณาคดีนี้มาตั้งแต่ต้น ประกาศไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการถาวร ที่กรุงเฮก และยังคงใช้ “แผนที่เส้นประ 9 เส้น” เป็นหลักฐานในการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ที่ทำให้เกิดเป็นข้อพิพาทกับบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
นอกจากนั้น จีนยังได้ดำเนินการถมทะเลจนเกิดเป็น “เกาะเทียม” ในทะเลจีนใต้ และผุดสิ่งปลูกสร้างทางทหารของตนเอาไว้ด้วย
กองทัพสหรัฐฯ มีการส่งเรือเข้าไปปฏิบัติภารกิจ “สำแดงเสรีภาพในการเดินเรือ” ในบริเวณน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้บ่อยครั้ง ซึ่งจีนประท้วงว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ส่งเสริมทั้งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้
จากการที่แฮร์ริส มุ่งย้ำให้บรรดาพันธมิตรในภูมิภาคมั่นใจว่าอเมริกายึดมั่นกระทำตามพันธะกรณีต่างๆ ที่มีอยู่กับเอเชีย และยึดมั่นอยู่ในกฎกติการะหว่างประเทศ ปรากฏว่า หวัง เหวินปิน โฆษกของกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงตอบโต้ในวันเดียวกัน กล่าวหาสหรัฐฯ ว่าพยายามหลบซ่อนอยู่เบื้องหลังคำพูดโวหารว่าด้วยระเบียบโลกที่อิงอยู่กับกฎกติกา ก็เพียงเพื่อปกป้อง “พฤติกรรมข่มเหงรังแกคนอื่น และวางตัวเป็นเจ้าใหญ่นายโต” ของตัวเองเท่านั้น
“เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอัฟกานิสถาน บอกให้เราทราบอย่างชัดเจนว่ากฎกติกาที่สหรัฐฯ พูดถึงนั้นเป็นอย่างไร” เขากล่าวระหว่างการแถลงข่าวตามปกติของกระทรวง
มันหมายความว่า “สหรัฐฯ สามารถที่จะประพฤติอย่างป่าเถื่อนในการเข้าแทรกแซงประเทศอธิปไตยรายหนึ่ง และไม่จำเป็นที่จะต้องรับผิดชอบสำหรับความทุกข์ยากของประชาชนในประเทศนั้น” หวัง บอก
“เพื่อที่ปกป้อง (หลักการ) ‘อเมริกาต้องเป็นอันดับหนึ่ง’ สหรัฐฯ สามารถที่จะป้ายสี กดขี่ ใช้อำนาจบังคับ และข่มเหงรังแกประเทศอื่นๆ โดยที่ไม่ต้องจ่ายราคาค่าตอบแทนอะไร” เขา กล่าวต่อ
“นี่แหละคือระเบียบที่สหรัฐฯ ต้องการ ... แต่ยังจะมีใครเชื่อพวกเขาอีกล่ะในเวลานี้?”