“ก.บ.ภ.” เวียนหลักการแนวทางค่าใช้จ่าย ให้ “ผู้ว่าราชการจังหวัด-หัวหน้ากลุ่มจังหวัด” ใช้ฟ้องร้องสู้คดีของหน่วยงานรัฐระดับจังหวัด-กลุ่มจังหวัด ในชั้นอนุญาโตตุลาการ กับคู่ความ ภายหลังรัฐบาลเห็นชอบให้สนับสนุนงบประมาณ เพื่อชำระเงินประกัน ค่าธรรมเนียม ค่าป่วยการให้สถาบันอนุญาโตตุลาการ ในการฟ้องคดี
วันนี้ (2 ส.ค. 64) มีรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการบูรณาการนโยบายพัฒนาภาค (ก.บ.ภ.) เวียนหนังสือแจ้งหัวหน้ากลุ่มจังหวัดทุกกลุ่มจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ดำเนินการบริหารจัดการและการใช้จ่ายงบประมาณของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ ให้เป็นไปตาม ก.บ.ภ. เมื่อ 14 ก.ค. 2564 ที่เห็นชอบหลักการและแนวทางปฏิบัติของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด (เพิ่มเติม) กรณีการสนับสนุนงบประมาณเพื่อชำระเงินประกัน ค่าธรรมเนียมให้สถาบันอนุญาโตตุลาการในการฟ้องคดีจากการดำเนินโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และการขอโอนเปลี่ยนแปลงโครงการเพื่อชดเชยเงินถูกพับไปของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
สำหรับหลักการและแนวทางปฏิบัติดังกล่าว โดยเฉพาะการชำระเงินประกันค่าธรรมเนียมให้สถาบันอนุญาโตตุลาการในการฟ้องคดีนั้น
ในกรณีการชำระเงินค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายในขั้นอนุญาโตตุลาการ ตลอดจนค่าป่วยการอนุญาโตตุลาการ ตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ระงับข้อพิพาท เฉพาะโครงการที่ดำเนินการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และมี การกำหนดในสัญญาก่อนมติคณะรัฐมนตรี 14 ก.ค. 2558
“ให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัด นำเงินเหลือจ่ายไปชำระเงินประกันค่าธรรมเนียมดังกล่าวได้ โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือหัวหน้ากลุ่มจังหวัด นำเสนอคำขอเปลี่ยนแปลงโครงการตามกรณีดังกล่าว”
ทั้งนี้ เพื่อขอความเห็นขอบจาก คณะกรรมการบูรณาการจังหวัด (ก.บ.จ.) หรือคณะกรรมการบูรณาการกลุ่มจังหวัด (ก.บ.ก.) แล้วแต่กรณี และ เมื่อ ก.บ.จ. หรือ ก.บ.ก. ให้ความเห็นชอบแล้ว ให้จัดส่งคำขอเปลี่ยนแปลงโครงการมายังฝ่ายเลขานุการ ก.บ.ภ. เพื่อพิจารณากลั่นกรอง
โดยให้เสนอขอความเห็นชอบจาก “ประธาน อ.ก.บ.ภ.” ที่กำกับดูแลภาค และแจ้งเวียน อ.ก.บ.ภ. เพื่อทราบต่อไป
ทั้งนี้ กรณีกลุ่มจังหวัดเดิม ให้เบิกเงินประกันค่าธรรมเนียมดังกล่าว จากเงินเหลือจ่ายของกลุ่มจังหวัดที่จังหวัดสังกัดในปัจจุบัน (กลุ่มจังหวัดใหม่)
สำหรับกรณีที่จังหวัดและกลุ่มจังหวัด มีปัญหา หรือความจำเป็น หรือเป็นข้อเรียกร้องของคู่สัญญาอีกฝ่ายหนึ่ง “ที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้” ให้เสนอคณะรัฐมนตรี พิจารณาอนุมัติเป็นรายๆ ไป
ส่วนมติการขอโอนเปลี่ยนแปลงโครงการเพื่อชดเชยถูกพับเงินไปของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด กรณีงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 กำหนดให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัด สามารถใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายปีปัจจุบันได้
โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือหัวหน้ากลุ่มจังหวัดนำเสนอ คำขอเปลี่ยนแปลงโครงการเพื่อขอความเห็นขอบจาก ก.บ.จ. หรือ ก.บ.ก. แล้วแต่กรณี
และเมื่อ ก.บ.จ. หรือ ก.บ.ก. ให้ความเห็นชอบแล้ว ให้จัดส่งคำขอเปลี่ยนแปลงโครงการมายังฝ่ายเลขานุการ ก.บ.ภ. ภายในวันที่ 10 ส.ค. 2564 เพื่อพิจารณากลั่นกรอง และเสนอขอความเห็นขอบจากประธาน อ.ก.บ.ภ.ที่กำกับดูแลภาค และแจ้งเวียน อ.ก.บ.ภ. เพื่อทราบ