xs
xsm
sm
md
lg

‘เคียว สัมพัน’ อดีตแกนนำเขมรแดงคนสุดท้ายแถลงศาลปฏิเสธเกี่ยวข้องฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - เคียว สัมพัน อดีตแกนนำเขมรแดงที่ยังมีชีวิตอยู่คนสุดท้ายปฏิเสธว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลเขมรแดงที่โหดเหี้ยม โดยกล่าวกับศาลระหว่างประเทศที่กำลังพิจารณาคำอุทธรณ์ของเขาในวันนี้ (19) ว่า เขาถูกพิพากษาตัดสินเนื่องจากเป็นตัวแทนของระบอบคอมมิวนิสต์สุดโต่งทั้งหมด

เคียว สัมพัน ในวัย 90 ปี กล่าวต่อศาลของผู้พิพากษาชาวเขมรและนานาชาติในถ้อยแถลงสุดท้ายเพื่อปิดการอุทธรณ์คำตัดสินในปี 2561 ของเขา ที่เขาปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่ามีส่วนร่วมในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และอาชญากรรมสงคราม

“ศาลแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่สามารถที่จะตัดสินอย่างเป็นกลางได้ และเป็นที่ชัดเจนว่าศาลมุ่งเป้าโจมตีพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา” เคียว สัมพัน อ่านคำแถลง

เคียว สัมพัน อดีตประธานแห่งรัฐของเขมรแดงที่ปกครองกัมพูชาด้วยกำปั้นเหล็กระหว่างปี 2518-2522 และรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของผู้คนราว 1.7 ล้านคน

ระหว่างการพิจารณาคำอุทธรณ์นาน 4 วันในเมืองหลวงของกัมพูชา ทนายฝ่ายจำเลยได้โต้แย้งว่า คำตัดสินของศาลในปี 2561 ควรถูกยกเลิก โดยกล่าวหาว่า กระบวนการพิจารณาล้มเหลวระหว่างการพิจารณาคดีครั้งแรกขององค์คณะชำระคดีวิสามัญแห่งตุลาการกัมพูชา (ECCC) และการซักพยานหลักฐานต่อลูกความของเขา

เคียว สัมพัน ถูกตัดสินความผิดภายใต้หลักการขององค์กรอาชญากรรมร่วม (joint criminal enterprise) ที่บุคคลสามารถรับผิดชอบต่อการกระทำของกลุ่มที่พวกเขาสังกัดอยู่ได้

ในคำแถลงปิด ทนายฝ่ายจำเลยได้ย้ำข้อโต้แย้งต่อความเห็นที่ว่าลูกความของเขา 'ไม่อาจที่จะไม่ทราบเรื่องได้' เนื่องจากเป็นสมาชิกคนสำคัญของรัฐบาลเขมรแดง ว่าไม่เพียงพอต่อการพิสูจน์

แต่อัยการแย้งว่า หลักฐานได้แสดงให้เห็นว่า เคียว สัมพัน สนับสนุนและส่งเสริมนโยบายเขมรแดงอย่างเปิดเผย และเข้าร่วมการประชุมวางแผนระดับสูง

“เมื่อเขาอยู่ในการประชุมเหล่านั้น เขาอยู่ที่นั่นในฐานะผู้นำอาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา เขามีความสามารถที่จะคัดค้าน แต่เขากลับสนับสนุนในการประชุม ไม่ว่าจะด้วยการไม่ออกเสียงหรือสนับสนุนอย่างแข็งขัน การตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับนโยบายอาชญากรรมและการปฏิบัติของพวกเขา” อัยการกล่าวต่อศาล

ภายใต้การนำของพลพต เขมรแดงพยายามที่จะกำจัดร่องรอยทั้งหมดของสิ่งที่พวกเขาเห็นว่าเป็นชีวิตชนชั้นนายทุน ทำลายสถาบันศาสนา การเงิน และสังคม และบังคับคนหลายล้านชีวิตออกจากเมืองต่างๆ ไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท

ผู้เห็นต่างมักพบกับความตายในทุ่งสังหารอื้อฉาวหรือที่ต่างๆ ขณะที่ความอดอยาก การทำงานหนักเกินไป และการไม่สนใจรักษาอาการเจ็บป่วยได้คร่าชีวิตผู้คนไปอีกเป็นจำนวนมาก

จนกระทั่งกองกำลังเวียดนามเข้าขับไล่เขมรแดงออกจากอำนาจในปี 2522 ขนาดของการสังหารที่เกิดขึ้นจึงได้กลายเป็นที่รับรู้อย่างแท้จริง

หลังถูกขับไล่ออกจากอำนาจในปี 2522 เขมรแดงทำสงครามกองโจรเป็นเวลาอีก 2 ทศวรรษก่อนสลายตัว พลพต เสียชีวิตในป่าในปี 2541 และในเดือน ธ.ค. ปีเดียวกันนั้น เคียว สัมพัน ยอมจำนนพร้อมกับ นวน เจีย แกนนำระดับสูงของเขมรแดงอีกคนหนึ่ง

นวน เจีย ถูกตัดสินโทษพร้อมกับเคียว สัมพัน ในปี 2551 และเสียชีวิตในปีถัดมา

คำพิพากษาปี 2551 ของเคียว สัมพัน ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมต่อชาวเวียดนามและชนกลุ่มน้อยชาวจามในกัมพูชา

ผู้นำเขมรแดงอีกคนหนึ่งที่ถูกตัดสินโทษจากศาลแห่งนี้คือ กาง กึ๊ก เอียว หรือที่รู้จักในชื่อ สหายดุช ผู้มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าระบบเรือนจำเขมรแดง ที่ดูแลศูนย์คุมขังทรมาน ‘ตวลสเลง’ ในกรุงพนมเปญ เขาเสียชีวิตในปี 2563 ขณะรับโทษจำคุกตลอดชีวิตจากคดีอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

หลังมีคำพิพากษาตัดสินกับเคียว สัมพัน และนวน เจีย ในปี 2561 นายกรัฐมนตรีฮุนเซนประกาศว่าจะไม่มีการไต่สวนคดีเขมรแดงเพิ่มเติม โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้เกิดความไม่มั่นคง

คำตัดสินการอุทธรณ์ของเคียว สัมพัน คาดว่าจะมีขึ้นในปีหน้า และหากมีการกลับคำตัดสินปี 2561 เขาก็ยังคงต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดิมจากคำพิพากษาในปี 2557 ในความผิดฐานก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ  ซึ่งศาลได้พิพากษายืนตามคำตัดสินเดิมจากการอุทธรณ์ในปี 2559

“ไม่ว่าจะตัดสินแบบไหน ผมก็ตายในคุก” เคียว สัมพัน กล่าวปิดท้ายคำแถลงต่อศาลที่ใช้เวลาเกือบ 20 นาที.


กำลังโหลดความคิดเห็น