เอพี - ชาวฝรั่งเศสและอิตาลีหลายพันคนชุมนุมต่อต้านการบังคับใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนสำหรับการทำกิจกรรมทางสังคมปกติ เช่น การเข้าร้านอาหาร พิพิธภัณฑ์ หรือเชียร์กีฬาในสนาม ชี้ทำให้สังคมยิ่งเหลื่อมล้ำ ขณะที่รัฐบาลเชื่อว่ามีความจำเป็นเพื่อส่งเสริมการฉีดวัคซีนและต่อสู้กับโควิดที่ยังคงระบาดหนัก โดยพบว่า หลังการประกาศนโยบายนี้ อัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในทั้ง 2 ประเทศ
นายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี วิจารณ์ว่า การต่อต้านการฉีดวัคซีนของผู้นำทางการเมืองบางคนไม่ต่างจากการร้องขอความตาย ถึงกระนั้น ยังคงมีการต่อต้านเกิดขึ้นในหมู่คนกลุ่มเล็กๆ ที่มองว่า คำสั่งของรัฐบาลเป็นการละเมิดเสรีภาพของประชาชนหรือกังวลกับความปลอดภัยของวัคซีน สุดสัปดาห์ที่แล้วชาวอิตาลีราว 80,000 คนชุมนุมประท้วงในหลายเมืองทั่วประเทศ ขณะที่มีประชาชนหลายพันคนเดินขบวนในปารีสในช่วง 3 สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และปะทะกับตำรวจเป็นครั้งคราว
สำหรับยุโรปโดยรวมนั้นมีความคืบหน้าอย่างมากในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทั้งที่มีหรือไม่มีมาตรการกระตุ้น และไม่มีประเทศไหนบังคับฉีดวัคซีน
เดนมาร์กริเริ่มใบรับรองการฉีดวัคซีนโดยมีการคัดค้านน้อยมาก ด้านเบลเยียมจะเริ่มกำหนดให้ประชาชนต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนก่อนเข้าร่วมกิจกรรมกลางแจ้งที่มีคนเข้าร่วมมากกว่า 1,500 คนกลางเดือนนี้และภายในอาคารต้นเดือนกันยายน เยอรมนีและอังกฤษยังคัดค้านแนวทางแบบครอบคลุม ขณะที่ชาวสเปนสนับสนุนการฉีดวัคซีนโดยไม่ต้องมีมาตรการกระตุ้น
ที่ฝรั่งเศสและอิตาลี การต่อต้านใบรับรองการฉีดวัคซีนหรือข้อจำกัดเพื่อป้องกันโควิดทำให้เกิดกลุ่มพันธมิตรต่างขั้ว ซึ่งมักมาจากกลุ่มการเมืองที่มีแนวทางสุดโต่ง รวมถึงพรรคการเมืองขวาจัด ผู้รณรงค์เรียกร้องความยุติธรรมทางเศรษฐกิจ ครอบครัวที่มีลูกเล็ก ผู้ที่ต่อต้านหรือกลัวผลข้างเคียงของวัคซีน
หลายคนโจมตีว่า ข้อกำหนดของใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ฝรั่งเศสเรียกว่า “เฮลธ์ พาสส์” และ “กรีน พาสส์” ในอิตาลี เป็นต้นตอความเหลื่อมล้ำที่จะทำให้สังคมยิ่งแตกแยก นำไปสู่การแบ่งแยกสีผิวและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่ผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิววิจารณ์ว่า ความคิดเห็นดังกล่าวเป็นการบิดเบือนประวัติศาสตร์
ต้นปีนี้ เพียร์ส คอร์บิน พี่ชายของเจเรมี คอร์บิน อดีตผู้นำพรรคแรงงานของอังกฤษ ถูกจับกุมหลังแจกใบปลิวเปรียบเทียบการฉีดวัคซีนกับค่ายกักกันของนาซี
ทั้งนี้ ชาวฝรั่งเศสต้องแสดง “เฮลธ์ พาสส์” ซึ่งหมายถึงการได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม หรือผลตรวจโควิดเป็นลบ หรือใบรับรองว่า หายจากโควิดเมื่อเร็วๆ นี้ หากต้องการเข้าพิพิธภัณฑ์ โรงหนังโรงละคร สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และรถไฟตั้งแต่วันที่ 9 ที่จะถึง
ส่วนอิตาลีเข้มงวดน้อยกว่า โดยนับตั้งแต่วันศุกร์นี้ (6 ส.ค.) ผู้ที่ต้องการนั่งในร้านอาหารในอาคาร ดูหนัง เชียร์กีฬาในสนาม เข้าพิพิธภัณฑ์ และสถานที่อื่นต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็ม ผลตรวจโควิดภายใน 48 ชั่วโมง หรือหลักฐานที่แสดงว่าเคยป่วยโควิดในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา และรัฐบาลกำลังพิจารณาขยายผลครอบคลุมการเดินทางระยะไกล
คณะกรรมาธิการพิเศษสำหรับโครงการฉีดวัคซีนของอิตาลีเผยว่า ความต้องการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นถึง 200% ในบางพื้นที่ หลังจากรัฐบาลประกาศแผนกรีน พาสส์
ที่ฝรั่งเศส ประชาชนเกือบ 5 ล้านคนฉีดวัคซีนเข็มแรก และกว่า 6 ล้านคนฉีดเข็มที่ 2 ในช่วง 2 สัปดาห์หลังจากที่ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ประกาศว่า อาจขยายมาตรการนี้ครอบคลุมร้านอาหารและสถานที่สาธารณะอื่นๆ จากที่ก่อนหน้านี้ความต้องการฉีดวัคซีนซาลงมาหลายสัปดาห์
การสำรวจความคิดเห็นชาวอิตาลีวัยผู้ใหญ่ 800 คน ระหว่างวันที่ 21-23 เดือนที่ผ่านมาพบว่า 15% ยังลังเล โดย 7% ในจำนวนนี้ยังไม่ตัดสินใจ และ 8% ต่อต้านวัคซีน และเหตุผลสำคัญที่สุดในการลังเลหรือปฏิเสธการฉีดวัคซีนคือ กลัวผลข้างเคียงและกังวลว่า วัคซีนไม่ผ่านการทดสอบอย่างเหมาะสม รองลงมาคือไม่ไว้ใจหมอ ไม่กลัวไวรัส และไม่เชื่อว่า โควิดมีจริง
ขณะเดียวกัน ธุรกิจต่างๆ ในอิตาลีและฝรั่งเศสจำใจยอมรับมาตรการนี้ ท่ามกลางความกังวลว่า บริษัทเอกชนจะสามารถบังคับใช้นโยบายนี้กับผู้บริโภคได้อย่างไร กระนั้น จากประสบการณ์ในเดนมาร์กบ่งชี้ว่า เมื่อเวลาผ่านไปคนจะยอมรับง่ายขึ้นและทำให้อัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น
เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงโคเปนเฮเกนเล่าว่า ช่วง 2-3 เดือนแรกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนถึงฤดูใบไม้ผลิอัตราการฉีดวัคซีนยังคงต่ำ และประชาชนไม่สามารถเข้ารับการตรวจโควิดได้ทันท่วงที แต่เมื่อประชาชนกว่า 80% ได้ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม และกว่า 60% ฉีดครบ 2 เข็ม ร้านของตนกลับมาขายดีเหมือนตอนก่อนโควิดระบาด