MGR Online - เกิดเหตุสลดขึ้นอีกแล้ว เมื่อ 7 ชาวบ้านพูกูด แขวงเชียงขวาง แอบขึ้นไปขุดหาทองบนดอยสูง แล้วเกิดหลุมยุบตัว ดินถล่มลงมาฝังทั้งเป็น ญาติร้องขอให้ช่วยขุดร่างขึ้นมา แต่รองเจ้าเมืองจำต้องปฏิเสธ หวั่นเกิดเหตุถล่มซ้ำซ้อนขึ้นอีก
เหตุสลดซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว แต่เพิ่งถูกเปิดเผยจากการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม โดยนายสีวอน บุดดาจัน หัวหน้าแผนกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แขวงเชียงขวาง ให้รายละเอียดว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม ได้เกิดเหตุดินยุบตัวทับกลุ่มคนจำนวนมาก บนดอยสูงในเขตบ้านแลทอง เมืองพูกูด แขวงเชียงขวาง
ฝ่ายปกครองเมืองพูกูดได้นำเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ พบว่า มีชาวบ้านพูกูดกลุ่มหนึ่งได้ลักลอบขึ้นไปขุดค้นหาแร่ทองคำบนดอย แต่หลุมที่ชาวบ้านเหล่านี้ขุดลึกลงไปเพื่อหาแร่ทองเกิดยุบตัว ทำให้มวลดินจำนวนมากได้ฝังทับลงไปยังร่างของชาวบ้านเหล่านั้นจนจมมิด
สำหรับชาวบ้านผู้เคราะห์ร้ายซึ่งถูกดินยุบฝังทั้งเป็นนั้น มีทั้งสิ้น 7 คน เป็นผู้หญิง 1 คน ทั้งหมดเป็นประชาชนในบ้านพูกูด โดยเป็นชาวบ้านโจย 5 คน บ้านบง 1 คน และบ้านเส้งอีก 1 คน
นายสุลิสา จันทะปันยา รองเจ้าเมืองพูกูด กล่าวว่า ครอบครัวของผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 7 ได้ร้องขอให้ฝ่ายปกครองเมืองขุดหลุมที่ยุบตัวลงไปเพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 7 ขึ้นมา เจ้าหน้าที่แผนกต่างๆ ของเมืองพูกูดได้มีการประชุมกันหลายครั้ง รวมถึงได้ขอคำแนะนำจากทางแขวง ซึ่งได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยประเมินสภาพที่เกิดเหตุ
จากการประเมินสถานการณ์ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ต่างเห็นพ้องกันว่า ไม่สามารถขุดดินเพื่อนำร่างของผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 7 คนขึ้นมาได้ เนื่องจากดินได้มีการยุบตัวกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง อีกทั้งสถานที่เกิดเหตุอยู่บนดอยสูง มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุซ้ำขึ้นอีก จึงต้องชี้แจงและทำความเข้าใจกับญาติของผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 7 ถึงเหตุผลที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ตามที่ร้องขอ
พื้นที่คาบเกี่ยวตั้งแต่ฝั่งตะวันตกของแขวงเชียงขวาง ต่อเนื่องมายังแขวงไซสมบูน และแขวงเวียงจันทน์ เป็นแหล่งแร่ทองคำที่ใหญ่ที่สุดของลาว โดยเฉพาะที่พูเบี้ย ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในลาว ยอดดอยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,820 เมตร
ในเดือนมกราคม 2537 รัฐบาลลาวได้ให้สัมปทานเหมืองทองคำและทองแดงในแหล่งพูเบี้ย ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 2,600 ตารางกิโลเมตร ในแขวงเชียงขวาง แขวงไซสมบูน และแขวงเวียงจันทน์ แก่บริษัทพูเบี้ย ไมนิ่ง ซึ่งถือหุ้นใหญ่โดยบริษัทแพน ออสเตรเลีย รีซอร์สเซส จากประเทศออสเตรเลีย
นักวิชาการด้านธรณีวิทยา ประเมินว่า แหล่งพูเบี้ย ซึ่งประกอบด้วย 3 แหล่งย่อย คือ แหล่งพูคำ แหล่งล่องแจ้ง และแหล่งบ้านห้วยซาย มีปริมาณสำรองทรัพยากรแร่ทองคำอยู่ 45 ล้านตัน และแร่ทองแดงอีก 144 ล้านตัน หรือเท่ากับ 810,000 ตันทองแดง
ปัจจุบัน สัมปทานของบริษัทพูเบี้ย ไมนิ่ง ยังไม่หมดอายุ แต่ผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทแพน ออสเตรเลีย รีซอร์สเซส ได้ถูกเปลี่ยนเป็น Guangdong Rising H.K.(Holding) บริษัทลูกของ Guangdong Rising Holding ที่มีรัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
รัฐบาลลาวได้เข้าไปถือหุ้นอยู่ในบริษัทพูเบี้ย ไมนิ่งด้วย 10% และถึงสิ้นปี 2562 บริษัทได้จ่ายเงินปันผลแก่รัฐบาลลาวแล้วรวม 58 ล้านดอลลาร์
นับแต่เริ่มมีรายได้จากการส่งออกทองคำและทองแดงในปี 2551 ถึงสิ้นปี 2562 บริษัทภูเบี้ย ไมนิ่ง ได้จ่ายภาษีจากกำไรให้แก่รัฐบาลลาวแล้วเป็นเงินรวม 259 ล้านดอลลาร์ และเมื่อเดือนตุลาคม 2563 ยังได้มอบภาษีจากกำไรล่วงหน้าให้รัฐบาลลาวอีก 4.1 ล้านดอลลาร์
หลังปี 2562 เป็นต้นมา รัฐบาลลาวได้เซ็นบันทึกความเข้าใจกับบริษัทเอกชนหลายแห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้เข้าไปสำรวจพื้นที่เพื่อทำเหมืองแร่ทองคำในเขตคาบเกี่ยวของทั้ง 3 แขวง เพิ่มขึ้นอีก
หัวหน้าแผนกทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แขวงเชียงขวาง เปิดเผยว่า การลักลอบเข้าไปขุดค้นหาทองคำของชาวบ้าน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ทางการพยายามป้องกันโดยชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้าน และคอยเฝ้าระวังหากพบว่ามีการลักลอบเข้าไปขุดหาแร่ทองคำ ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย.