รอยเตอร์ - ศาลกัมพูชาตัดสินจำคุกนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม 5 คน เป็นเวลานานถึง 20 เดือน วานนี้ (5) จากข้อหายุยงปลุกปั่นให้ก่ออาชญากรรม จากความพยายามของพวกเขาที่จะจัดการเดินขบวนไปยังบ้านพักของนายกรัฐมนตรีเพื่อประท้วงการถมทะเลสาบในเมือง
นักเคลื่อนไหวทั้ง 5 คน เป็นสมาชิกขององค์กร Mother Nature กลุ่มเฝ้าระวังด้านสิ่งแวดล้อม พวกเขาถูกตัดสินโทษจำคุกเป็นระยะเวลาระหว่าง 18-20 เดือน จากการปลุกปั่นให้กระทำความผิด หรือรบกวนความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม โฆษกศาลระบุ
ในกลุ่มจำเลย มี 2 คนที่ถูกตัดสินโทษโดยที่พวกเขาไม่ได้มาปรากฏตัวที่ศาล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ อเลฮานโดร กอนซาเลซ-เดวิดสัน ผู้ก่อตั้งองค์กรชาวสเปน ที่ยังถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดเพื่อยุยงปลุกปั่นให้ก่ออาชญากรรม
สมาชิกของ Mother Nature 3 คนถูกจับกุมตัวเมื่อเดือน ก.ย.2563 จากการเดินขบวนไปยังบ้านพักของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน เพื่อแสดงความกังวลเกี่ยวกับการถมที่และการพัฒนาทะเลสาบบึงตาม็อก ทะเลสาบใหญ่ที่สุดในกรุงพนมเปญ ตามการระบุของ Licadho กลุ่มสิทธิมนุษยชนท้องถิ่น
Licadho กล่าวว่า การพิจารณาคดีส่วนใหญ่มาจากความคิดเห็นและเนื้อหาที่เปิดเผยต่อสาธารณะบนบัญชีเฟซบุ๊กของ Mother Nature ซึ่งไม่มีการยั่วยุแต่อย่างใด
นักเคลื่อนไหวกล่าวว่า นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมตกเป็นเป้าหมายในกัมพูชาจากการแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นปัญหาต่างๆ เช่น การตัดไม้อย่างผิดกฎหมาย และการสมรู้ร่วมคิดระหว่างนักการเมืองและนักธุรกิจเพื่อหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ
เจ้าหน้าที่ขององค์การนิรโทษกรรมสากลระบุว่า คำตัดสินดังกล่าวเป็นการตัดสินโทษที่อุกอาจ ที่มุ่งเป้าไปที่การปิดปากนักปกป้องสิทธิมนุษยชนที่พยายามปกป้องคุ้มครองทรัพยากรสิ่งแวดล้อม
“นี่เป็นการคุกคามทุกคนที่กล้ายืนหยัดเพื่อความยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิมนุษยชนในกัมพูชา” เจ้าหน้าที่จากองค์การนิรโทษกรรมสากล กล่าว
กอนซาเลซ-เดวิดสัน ที่ไม่ได้อยู่ในกัมพูชา กล่าวว่า คำตัดสินดังกล่าว “ไม่ยุติธรรมและน่าตกใจอย่างยิ่ง” และกล่าวว่า รัฐบาลของฮุนเซนกำลังต่อสู้เพื่อรักษาอำนาจของตนเองไว้
“เครื่องมือสุดท้ายที่พวกเขามีตอนนี้คือความหวาดกลัว ซึ่งรวมถึงการตัดสินโทษชาวเขมรผู้บริสุทธิ์ด้วยโทษจำคุกเป็นระยะเวลายาวนาน” กอนซาเลซ-เดวิดสัน กล่าวกับรอยเตอร์.