เอเอฟพี - กัมพูชาออกคำสั่งให้นักข่าวยุติการรายงานข่าวจาก ‘พื้นที่สีแดง’ ที่ถูกล็อกดาวน์เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 และห้ามไล่ตามรถพยาบาล ในขณะที่ประเทศต่อสู้กับการติดเชื้อที่เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์
ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในกัมพูชาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.พ. หลังพบการระบาดครั้งแรกในชุมชนชาวจีน และเมื่อวันอังคาร (4) เจ้าหน้าที่ได้ประกาศตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 938 คนภายในวันเดียว ทำให้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 16,299 คน และมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งหมด 107 คน
เจ้าหน้าที่ได้ปรับเปลี่ยนโรงเรียนและสถานที่จัดงานแต่งงานเป็นศูนย์รักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากโรงพยาบาลไม่มีเตียงผู้ป่วยเพียงพอ และนายกรัฐมนตรีฮุนเซนเตือนว่าประเทศเข้าใกล้ความตายทุกขณะจากการระบาดของไวรัส
กรุงพนมเปญและเมืองตาเขมาที่อยู่ติดกัน ถูกล็อกดาวน์เป็นเวลา 20 วัน และรัฐบาลได้ประกาศยกเลิกล็อกดาวน์ที่จะมีผลตั้งแต่วันพฤหัสฯ นี้ (6)
แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า พื้นที่ที่มีอัตราการติดเชื้อสูงจะยังคงใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งเครื่องกีดขวางรอบพื้นที่สีแดง ห้ามประชาชนออกจากบ้านของตนเองยกเว้นเหตุผลทางการแพทย์
เมื่อวันอังคาร (4) กระทรวงข้อมูลข่าวสารมีคำสั่งให้นักข่าวหยุดการรายงานข่าวจากพื้นที่สีแดงทันที และเตือนว่าผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งจะถูกดำเนินคดี
กระทรวงระบุว่า มีนักข่าวบางคนรายงานข่าวจากพื้นที่สีแดงและพื้นที่ห้ามเข้า เช่น โรงพยาบาลและศูนย์รักษาพยาบาล และยังมีบางคนไล่ตามรถพยาบาล ที่ทำให้เกิดความสับสนและความไม่สงบ
คำสั่งห้ามนี้มีขึ้นหลังผู้อยู่อาศัยในพื้นที่สีแดงร้องเรียนเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารและร้องขอความช่วยเหลือจำเป็นผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์
องค์การนิรโทษกรรมสากลได้ออกถ้อยแถลงประณามมาตรการล็อกดาวน์ของกัมพูชาเมื่อสัปดาห์ก่อน ระบุว่า พวกเขาปล่อยให้ประชาชนจำนวนมากต้องหิวโหยและกลุ่มช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมถูกห้ามเข้าไปแจกจ่ายอาหารและความช่วยเหลือจำเป็นอื่นๆ
“การจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาลกัมพูชาในการล็อกดาวน์นี้เป็นผลให้เกิดความเดือดร้อนและการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วประเทศ เวลานี้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่สีแดงและพื้นที่อื่นๆ ในกัมพูชากำลังหิวโหยเพราะนโยบายที่ไม่สมเหตุสมผล” เจ้าหน้าที่จากองค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุ
เจ้าหน้าที่กัมพูชาได้ขอให้ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่สีแดงยื่นขอความช่วยเหลือด้านอาหาร และกล่าวว่า พวกเขาได้แจกจ่ายข้าวและปลากระป๋องให้ประชาชนหลายพันครัวเรือนในแต่ละวัน.