MGR Online - สังคมออนไลน์ของลาววิจารณ์อย่างกว้างขวาง หลังเห็น C-17 ขนทหารอเมริกันมากันเต็มรันเวย์สนามบินวัดไต เผยเป็นภารกิจค้นหาศพ GI ซึ่งเหลืออยู่อีก 286 ราย ที่ตายในสงครามที่ไม่เคยมีการประกาศในลาว
วันพุธที่ 28 เมษายน เครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ C-17 ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ได้บินมาลงยังสนามบินนานาชาติวัดไต นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว จากนั้นทหารจำนวนมากสะพายเป้สนามเดินเรียงแถวลงมาจากประตูด้านใต้หัวเครื่องบิน ไปขึ้นรถบัสที่จอดรออยู่ด้านข้างลานบิน
เพจคนรักการบิน In Love Aviation เผยแพร่คลิปนี้ออกมาตอนบ่ายวันเดียวกัน และเขียนคำอธิบายไว้ว่า ทหาร 65 นาย ที่เดินทางมากับเครื่องบิน C-17 ลำนี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญจากกองทัพสหรัฐอเมริกา ที่มาปฏิบัติการร่วมภาคสนามลาว-อเมริกัน ในการสำรวจ ขุดค้น หาร่องรอย และศพของทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในช่วงสงครามในลาว ครั้งที่ IV ประจำปี 2021 (21-4LA) ที่เมืองบัวละพา แขวงคำม่วน จากนั้น สังคมออนไลน์ของลาวได้เผยแพร่คลิปนี้ต่อออกไปอย่างกว้างขวาง
อย่างไรก็ตาม การเดินทางเข้ามาของทหารกลุ่มนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ลาวกำลังเผชิญการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของโรคโควิด-19 มีการล็อกดาวน์นครหลวงเวียงจันทน์และทุกแขวงทั่วประเทศ รวมถึงห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในลาว
ตั้งแต่ตอนบ่ายของวันที่ 28 เมษายน จนถึงบ่ายของเมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) ไม่มีหน่วยงานของรัฐแห่งใดออกมาชี้แจงหรืออธิบายเหตุผลอย่างเป็นทางการถึงการมาของคณะทหารชุดนี้ จึงก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ของลาวไปต่างๆ นานา ทั้งในทางบวกและทางลบ ประเด็นหนึ่งที่ถูกคาดการณ์อย่างกว้างขวาง คือ จะมีส่วนสัมพันธ์กับสถานการณ์ความรุนแรงจากการต่อต้านรัฐประหารในพม่าที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้หรือไม่
กระทั่งเวลา 14.30 น. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาว ได้เป็นแม่ข่ายเผยแพร่คำชี้แจงจากคณะคุ้มครองสื่อมวลชน โดยขึ้นหัวเรื่องว่า “ความเป็นจริงที่คณะวิชาการสหรัฐอเมริกาเดินทางเข้ามา สปป.ลาว” มีเนื้อหาพอสรุปได้ว่า
ทหารอเมริกันทั้ง 65 นาย มาจากทีมงาน MIA (Missing in Action) เดินทางเข้ามาในลาวด้วยเครื่องบิน C-17 ในวันที่ 28 เมษายน 2564 เพื่อปฏิบัติภารกิจ “ค้นหากระดูกทหารอเมริกันเพื่อมนุษยธรรม” โดยภารกิจนี้ได้เคยมีการปฏิบัติร่วมกับฝ่ายลาวมาแล้ว และการเข้ามาของทหารชุดนี้ก็ทำตามมาตรการของคณะเฉพาะกิจควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวด ทุกคนต้องถูกกักตัว 14 วันก่อนเริ่มต้นทำงาน
การมาของคณะทหารชุดนี้ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ไปต่างๆ นานา ทั้งทางบวกและทางลบ คณะคุ้มครองสื่อมวลชนร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงได้สอบถามข้อมูลเพื่อนำมาอธิบาย ขอให้สังคมอย่าแตกตื่น เสพข่าวอย่างมีสติ และติดตามแหล่งข่าวที่เป็นทางการเท่านั้น
คำชี้แจงเพียงสั้นๆ ไม่อาจสร้างความกระจ่างได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะคำว่า “ภารกิจค้นหากระดูกทหารอเมริกัน” ยิ่งทำให้มีหัวข้อวิจารณ์ต่อเนื่องอีก เพราะเป็นที่ทราบดีว่าคู่สงครามในช่วงสงครามอินโดจีนมีเพียงสหรัฐอเมริกากับเวียดนาม และอเมริกาไม่เคยประกาศสงครามกับลาว แต่เนื่องจากกองทัพเวียดกงได้เข้ามาใช้ดินแดนลาวสำหรับส่งกำลังบำรุง กองทัพอเมริกันจึงได้มีปฏิบัติการลับและมีการทิ้งระเบิดตามพื้นที่ต่างๆ ของลาว เป็นปริมาณนับล้านตัน
ในเวลา 21.00 น. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาวจึงต้องออกมาชี้แจงอีกครั้ง และให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า การค้นหาศพของทหารอเมริกันที่เสียชีวิตในช่วงสงครามในลาว เป็นความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศที่ทำร่วมกันมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ที่ผ่านมาได้ค้นพบศพ หรือชิ้นส่วนศพทหารอเมริกันที่ได้ผ่านการชันสูตรและส่งคืนแก่ประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว 287 ศพ หรือมากกว่า 50% ปัจจุบันยังคงเหลืออีก 286 ศพ ที่สหรัฐอเมริกาต้องการความร่วมมือจากลาว เพื่อค้นหาต่อให้ครบ
สำหรับแผนความร่วมมือค้นหาครั้งที่ 4 ได้มีการตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ได้ถูกเลื่อนออกมาหลายครั้ง เนื่องจากเกิดการระบาดของโควิด-19 คณะเฉพาะกิจควบคุมโควิด-19 ของลาว ได้อนุมัติปฏิบัติการนี้ในเดือนเมษายน สหรัฐอเมริกาจึงได้ส่งทีมงานพร้อมเครื่องไม้เครื่องมือมาถึงลาวในวันที่ 28 เมษายน
ตามแผนที่กำหนดไว้ ปฏิบัติการค้นหาครั้งที่ 4 จะทำระหว่าง วันที่ 12 พฤษภาคม-21 มิถุนายน ที่เมืองบัวละพา แขวงคำม่วน ทีมงานที่เพิ่งเดินทางมาถึงชุดนี้จะถูกกักตัวอยู่ภายในนครหลวงเวียงจันทน์เป็นเวลา 14 วัน ก่อนจะเริ่มการขุดค้นจริงในวันที่ 13 พฤษภาคม และค้นหาต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 18 มิถุนายน และทีมงานทั้งหมดจะเดินทางออกจากลาวในวันที่ 21 มิถุนายนที่จะถึงนี้.