MGR Online - ทางการจีนส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือคุมเข้มตลอดแนว หลังสั่งปิดชายแดนรุ่ยลี่-หมู่เจ้ ห้ามคนผ่านเข้า-ออก อ้างเหตุตรวจพบคนติดเชื้อโควิด-19 ทำให้ต้องล็อกดาวน์เมือง
ตั้งแต่เช้าวานนี้ (30 มี.ค.) ฝ่ายปกครองเมืองรุ่ยลี่ ได้สั่งปิดช่องทางที่เชื่อมระหว่างรุ่ยลี่กับเมืองหมู่เจ้ ห้ามคนผ่านเข้า-ออกโดยเด็ดขาด พร้อมกันนี้ ได้เสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร พร้อมอาวุธครบมือ ตั้งด่านตรวจตราตามเส้นทางที่มีช่องทางเชื่อมระหว่าง 2 ประเทศอย่างเข้มงวด
รุ่ยลี่เป็นเมืองหน้าด่านของเขตปกครองตนเองชนชาติไต และจิ่งพัว เต๋อหง มณฑลยูนนาน อยู่ตรงข้ามกับเมืองหมู่เจ้ ภาคเหนือของรัฐชาน โดยมีแม่น้ำมาว หรือแม่น้ำฉ่วยหลีเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ
หมู่เจ้-รุ่ยลี่เป็นประตูการค้าระหว่างพม่า-จีนที่สำคัญและมูลค่าสูงที่สุด ในภาวะปกติการซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางนี้มีมูลค่าสูงถึงปีละมากกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าที่พม่าต้องนำเข้าจากจีนและสินค้าส่งออกจากพม่าเข้าไปยังจีน เกือบทั้งหมดต้องผ่านช่องทางนี้
ทางการรุ่ยลี่ให้เหตุผลในการปิดพรมแดนครั้งนี้ว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในตลาดซื้อขายหยกในเขตเจ้เก่า ฝั่งรุ่ยลี่ 8 คน ทำให้ต้องสั่งปิดตลาดหยก ล็อกดาวน์เมือง ห้ามคนผ่านเข้า-ออกพื้นที่ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะปิดชายแดนไปจนถึงเมื่อใด
หมู่เจ้เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารของประชาชนชาวพม่า และด้วยความที่เป็นเมืองหน้าด่านติดกับสาธารณรัฐประชาชนจีน การประท้วงในเมืองหมู่เจ้จึงดำเนินไปอย่างเข้มข้น โดยพุ่งเป้าโจมตีไปยังประเทศจีนเป็นหลักว่ามีส่วนรู้เห็นและสนับสนุนให้กองทัพพม่ารัฐประหารยึดอำนาจไปจากรัฐบาลพรรค NLD
ด้านกองทัพได้ใช้กำลังตำรวจเข้าสลายการชุมนุมประท้วงในเมืองหมู่เจ้ทุกครั้งอย่างรุนแรง ในวันกองทัพพม่าเมื่อวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม มีเด็กอายุ 16 ปี รายหนึ่งถูกตำรวจยิงตายในการประท้วงในเมืองหมู่เจ้ และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ การประท้วงในเมืองหมู่เจ้เมื่อวานนี้ (30 มี.ค.) ก็มีรายงานว่ามีผู้ถูกยิงเสียชีวิตอีก 1 ราย.