รัฐชานตึงเครียด! บุกจับบุคคลสำคัญ "ทหารพม่า-RCSS" เปิดศึกที่สีป้อ

MGR Online - ความตึงเครียดปรากฏชัดเจนในรัฐชาน หลังทหารพม่าบุกจับทั้งมุขมนตรีและแกนนำมวลชนไปขังไว้ อ้างเหตุฝ่าฝืนมาตรการป้องกันโควิด-19 ขณะที่ทหารของเจ้ายอดศึกกับทหารพม่า รบกันหนักในเมืองสีป้อ ชาวบ้านนับร้อยต้องหนีตายไปหลบในวัด

ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของเมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) ชุมชนออนไลน์ของชาวไทใหญ่ทั่วรัฐชาน รวมถึงในเมืองไทย ได้ช่วยกันเผยแพร่หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อผู้แทนสภาเพื่อกอบกู้รัฐฉชาน (RCSS/SSA) ซึ่งประจำอยู่ตามเมืองสำคัญๆ 8 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกของรัฐชาน

เนื้อหาที่เผยแพร่ระบุว่า RCSS ยืนอยู่เคียงข้างประชาชน หากเกิดการละเมิดหรือมีการคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน สามารถติดต่อบุคคลตามที่ระบุไว้ในหมายเลขโทรศัพท์เหล่านั้นได้ทันที


สาเหตุที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้ออกไปอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเมื่อเวลา 15.30 น. ของเมื่อวาน เจ้าหน้าที่ตำรวจในอำเภอกุ๋นเหง จังหวัดดอยแหลม รัฐชานใต้ ได้จับกุมตัวชายชาวไทใหญ่ 3 คน โดยสันนิษฐานว่าเป็นแกนนำมวลชนที่ออกมาชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารในรัฐชาน

ผู้ถูกจับกุมทั้ง 3 เป็นชาวเมืองกาลิ 2 คน ได้แก่ จาย หาญเมือง เจ้าของฟิตเนสชื่อ “พอนหลี ฟิตเนส” ในเมืองกาลิ และจาย โมจ่อ ทั้งคู่เป็นชาวเมืองกาลิ ตำรวจได้แจ้งข้อหาว่าทั้งคู่ทำผิดกฎหมายภัยธรรมชาติ มาตรา 25 โดยฝ่าฝืนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนอีกคนได้แก่ จาย เหลินคำ ชาวเมืองกุ๋นเหง เจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งว่าทำผิดกฎหมายมาตราอะไร

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ทหารพม่าได้บุกไปจับกุมตัว ดร.ลิน ทุต มุขมนตรีรัฐชาน ที่บ้านพักในเมืองตองจี โดยไม่ได้ให้แจ้งเหตุผล และจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าทหารได้นำตัว ดร.ลิน ทุต ไปควบคุมตัวไว้ ณ ที่ใด






ดร.ลิน ทุต ถูกจับกุมตัวครั้งนี้เป็นรอบที่ 2 โดยเมื่อตอนเช้าตรู่ของวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันแรกในการเข้ายึดอำนาจของ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กองทัพพม่า เจ้าหน้าที่ได้ไปจับกุมตัว ดร.ลิน ทุต จากบ้านพัก และนำไปควบคุมตัวไว้ภายในฐานทัพ กองบัญชาการภาคตะวันออก เป็นเวลา 1 คืน ก่อนปล่อยตัวกลับมายังบ้านพักที่เมืองตองจีในวันรุ่งขึ้น (2 ก.พ.)

ดร.ลิน ทุต ได้รับแต่งตั้งเป็นมุขมนตรี รัฐชาน เมื่อปี 2559 หลังพรรค NLD ชนะเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเป็นครั้งแรก

หลังการทำรัฐประหารของ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และมีการจับนางอองซาน ซูจี หัวหน้าพรรค NLD และประธานาธิบดี วินมิ่น ไปควบคุมตัวไว้ ชาวไทใหญ่ในทุกจังหวัดของรัฐชาน ได้ออกมาร่วมเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารครั้งนี้ เช่นเดียวกับชาวพม่าในรัฐและภาคอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม เหตุผลการเคลื่อนไหวของชาวไทใหญ่ไม่ได้ทำเพื่อพรรคการเมืองหรือตัวบุคคลใด บุคคลหนึ่ง แต่เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านระบอบเผด็จการทหาร รวมทั้งต้องการเรียกร้องประชาธิปไตย สิทธิและเสรีภาพ ในการปกครองตนเอง

ที่รัฐชานเหนือ มีรายงานว่า เมื่อวานนี้ ในหลายพื้นที่ของอำเภอสีป้อ จังหวัดจ๊อกแม ได้เกิดการสู้รบกันอย่างรุนแรงระหว่างทหารพม่าและทหาร RCSS ส่งผลให้ชาวบ้านนับร้อยต้องหนีตายมาหลบอยู่ในวัด




การปะทะจุดแรก เริ่มในเวลา 09.51 น. ทหารพม่าได้บุกเข้าโจมตีที่มั่นของ RCSS ทางทิศเหนือของบ้านป๋างค้า ตำบลเมืองตุ๋ง อำเภอสีป้อ ทั้งสองฝ่ายสาดกระสุนใส่กันเป็นเวลานาน มีรายงานว่า ทหารพม่าเสียชีวิต 2 นาย และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ฝ่ายทหารพม่าได้ถอนกำลังออกจากทิศเหนือ และกลับเข้าโจมตีพื้นที่เดิมอีกครั้งในเวลา 12.45 น. โดยบุกเข้าทางทิศใต้

จุดที่สอง เริ่มปะทะในเวลา 10.33 น. ที่บ้านป๋างโข้ง ตำบลเมืองตุ๋งเช่นกัน ที่นี่ ทหารพม่าได้ใช้อาวุธหนักยิงปูพรมเข้าใส่ฐานที่มั่นของ RCSS ก่อน เพื่อให้การสนับสนุนการบุกเข้าโจมตีของกองกำลังทหารราบ

ในเวลา 10.00 น. มีกระสุนปืนใหญ่หลายนัด ตกบริเวณใกล้กับหมู่บ้านนาช้าง ตำบลบ้านลี อำเภอสีป้อ ทำให้ชาวบ้านประมาณ 200 คน ต้องทิ้งบ้านเรือน พากันอพยพหนีตายไปหลบอยู่ในวัดบ้านลี จนถึงเวลา 15.00 น.

ทหารพม่าและทหาร RCSS ได้เริ่มรบกันในพื้นที่ตำบลเมืองตุ๋ง อำเภอสีป้อ มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยฝ่ายทหารพม่า ซึ่งเป็นการสนธิกำลังกันหลายหน่วย มีกำลังพลประมาณ 400 นาย ได้รุกเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบของ RCSS โดยไม่ได้บอกล่วงหน้า และเป็นฝ่ายเริ่มต้นสาดกระสุนเข้าใส่ทหารของ RCSS ก่อน

RCSS เป็น 1 ใน 10 กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ ที่ได้ลงนามในสัญญาหยุดยิงทั่วประเทศกับรัฐบาลพม่าไปตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2558 และ พล.อ.เจ้ายอดศึก ประธาน RCSS ยังมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสันติภาพพม่าด้วย ในฐานะรักษาการประธานคณะทำงานกระบวนการสันติภาพ(Peace Process Steering Team : PPST)

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ หลังเริ่มการสู้รบกันได้ 1 วัน RCSS ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่ากองทัพพม่าเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงที่ระบุไว้ใน NCA เพราะได้เคลื่อนกำลังเข้ามาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า และเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน

เมื่อคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย เพิ่งแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์เมียวดี ซึ่งนอกจากการชี้แจงเหตุผลของการรัฐประหารครั้งนี้ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ยังระบุด้วยว่า จะเดินหน้ากระบวนการสันติภาพด้วยการเจรจากับกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ ทั้งกลุ่มที่ได้เซ็น NCA ไปแล้ว และกลุ่มที่ยังไม่ได้เซ็น แต่ในวันรุ่งขึ้น ทหารพม่ากับ RCSS ก็ตอบรับคำแถลงครั้งนี้ด้วยการเปิดศึกระหว่างกันทันที.