MGR Online - โรงงานบุหรี่ในพื้นที่ปกครองตนเองว้าปิดกิจการหลังเจอพิษโควิด-19 พบ 151 คนงานถูกนำไปปล่อยทิ้งไว้ตามยถากรรมกลางไร่ข้าวโพดพื้นที่รอยต่อเมืองลา จนทหาร NDAA มาพบจึงได้รับความช่วยเหลือ เผยเขตว้าโควิด-19 ยังระบาดหนักตั้งแต่ 25 ธันวาคม มีคนป่วยแล้ว 299 ราย
ช่วงเช้าวันที่ 17 มกราคม รถบรรทุกใหญ่ขนาด 12 ล้อ 2 คัน ได้มารับคนงาน 151 คน ซึ่งมีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่ถูกนำมาทิ้งไว้กลางไร่ข้าวโพดริมถนนเมื่อ 3 วันก่อน พาไปส่งที่ตองจี เมืองหลวงของรัฐชานใต้
ก่อนออกเดินทาง คนงานทั้งหมดได้กินข้าวผัดที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมืองเชียงตุงซื้อมาเลี้ยง
เย็นวันนี้ (18 ม.ค.) รถบรรทุก 12 ล้อ ทั้ง 2 คัน พาคนงานทั้ง 151 คน เดินทางไปถึงตองจี โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและฝ่ายปกครองเมืองตองจี มารับและตรวจคัดกรองสุขภาพของแต่ละคน
ทั้ง 151 คน เป็นคนงานโรงงานผลิตบุหรี่ “จิงหว่า” ซึ่งมีนายทุนชาวว้าเป็นเจ้าของ โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองแผน ในเขตพิเศษหมายเลข 2 พื้นที่ปกครองตนเองของสหรัฐว้า (UWSA) ในภาคเหนือของรัฐชาน แต่ได้ปิดกิจการไปหลังเกิดโควิด-19 ระบาดในเมืองป้อก และป๋างซาง ของว้า (ดูแผนที่ประกอบ)
ตอนเย็นวันที่ 14 มกราคม คนงานเหล่านี้ได้ถูกโรงงานนำขึ้นรถมาปล่อยทิ้งไว้ในไร่ข้าวโพด ริมถนนสายเมืองยาง-เมืองขาก ใกล้กับหมู่บ้านถั่นหม่อน ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างพื้นที่ของว้า กับเขตพิเศษหมายเลข 4 เมืองลา ท่ามกลางความหนาวเหน็บ โดยไม่มีทั้งเสบียงอาหารและเครื่องดื่ม
วันรุ่งขึ้นทหารจากกองทัพเมืองลา (NDAA) ได้ลาดตระเวนมาพบ แต่เนื่องจากเมืองลาอยู่ระหว่างปิดเมืองเพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 จึงไม่สามารถนำคนงานเหล่านี้เข้าไปยังเมืองลาได้ ต้องประสานงานไปยังฝ่ายปกครองเมืองเชียงตุง นำอาหารและเครื่องดื่มมาช่วยเหลือยังไร่ข้าวโพดที่ซึ่งคนงานเหล่านี้ถูกทิ้งไว้
จากนั้นฝ่ายสาธารณสุขเมืองเชียงตุงได้ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเก็บตัวอย่างของทุกคน เพื่อนำไปตรวจหาเชื้อโควิด-19
คนงานทั้ง 151 คน มาจากหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่มาจากภาคมะกวย ที่เหลือเป็นชาวมัณฑะเลย์ พะโค และมีส่วนหนึ่งที่มาจากเมืองจ๊อกแม กับต้างย่าน ในรัฐชานเหนือ
วันที่ 16 มกราคม ผลตรวจโควิด-19 ของทุกคนออกมาเป็นลบ เจ้าหน้าที่จากเชียงตุงได้ว่าจ้างรถบรรทุก 12 ล้อจากเชียงตุง มารับคนงานทั้งหมดไปส่งที่ตองจี เพื่อเดินทางต่อไปยังบ้านของแต่ละคนในวันรุ่งขึ้น โดยคนงานเป็นผู้จ่ายค่ารถเอง เฉลี่ยคนละ 35,000 จั๊ต (ประมาณ 800 บาท)
ทั้งสหรัฐว้าและเมืองลา เป็นพื้นที่ปกครองตนเองชายแดนรัฐชาน-จีน เมืองลาเป็นของกลุ่มชาติพันธุ์ลื้อ อยู่ติดกับเขตปกครองตนเองชนชาติไต สิบสองปันนา ส่วนสหรัฐว้าอยู่ติดกับเขตปกครองตนเองชนชาติไต ลาหู่ และว้า เมิ่งเหลียน จังหวัดผูเอ่อร์ มณฑลยูนนานทั้งคู่
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม หญิงชาวจีนผู้หนึ่ง อายุ 23 ปี ข้ามกลับเข้าจีนผ่านทางป๋างซาง เมืองหลวงของว้า แต่ถูกเจ้าหน้าที่จีนตรวจพบว่าติดโควิด-19
เมื่อตรวจสอบไทม์ไลน์พบว่า หญิงคนนี้มาอาศัยอยู่ในเมืองลาตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน วันที่ 9 ธันวาคม ได้เช่ารถจากเมืองลาเพื่อไปยังเมืองป้อก จากนั้นวันที่ 14 ธันวาคม เช่ารถจากเมืองป้อกเดินทางต่อไปป๋างซาง และกลับเข้าจีนในวันรุ่งขึ้น
เมื่อเรื่องของหญิงจีนที่ติดโควิด-19 รายนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ทั้งว้าและเมืองลา ต่างประกาศล็อกดาวน์ ห้ามคนเข้า-ออกพื้นที่ของตนอย่างเด็ดขาด ระดมเก็บตัวอย่างจากผู้ที่อาศัยและทำงานอยู่ภายในอย่างเข้มข้น เพื่อนำไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 รวมถึงตัดการติดต่อและปิดถนนที่เชื่อมระหว่างว้าและเมืองลา
จนถึงขณะนี้ เมืองลายังไม่มีรายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แตกต่างจากพื้นที่ของว้า ซึ่งพบผู้ป่วยโควิด-19 คนแรกในวันที่ 25 ธันวาคม จากนั้นได้ตรวจพบเพิ่มอีกเป็นจำนวนมาก
วันที่ 17 มกราคม ในพื้นที่ว้าได้พบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 146 คน ทั้งหมดอยู่ในเมืองป้อก ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมในเขตว้าพุ่งขึ้นไปถึง 299 คน อยู่ในป๋างซาง 35 คน และเมืองป้อกอีก 264 คน และมีผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายแล้ว 45 คน
ฝ่ายสาธารณสุขของว้าได้ตรวจกลุ่มตัวอย่างไปแล้ว 347,410 คน เป็นการตรวจในเมืองป้อก 265,895 คน และในป๋างซาง 81,515 คน
ตัวเลขผู้ป่วยที่พบในพื้นที่ว้า ไม่ได้ถูกนำไปรวมกับตัวเลขที่กระทรวงสาธารณสุขและกีฬา พม่า ประกาศทุกวัน ในเวลา 20.00 น. ขณะที่ในปัจจุบันทั้งว้าและเมืองลา ยังอยู่ระหว่างล็อกดาวน์ ยังไม่เปิดเมือง.
(ภาพประกอบจากสำนักข่าว Kanbawza)