MGR Online - ผู้บริหารหมู่เจ้-รุ่ยลี่ ประตูการค้าใหญ่ที่สุดของพม่า-จีน ทดลองเปิดช่องทางเข้า-ออกสินค้า 24 ชั่วโมงก่อน 1 จุด เป็นเวลา 10 วัน เพื่อทดสอบระบบป้องกันโควิด-19 หากไม่มีปัญหา เตรียมเปิดเต็มที่ทุกช่องทาง หวังดึงยอดซื้อ-ขายกลับมาสูงกว่าปีละ 5 พันล้านดอลลาร์อีกครั้ง หลังซบเซามานานกว่า 1 ปี
ตั้งแต่วันนี้ (5 ม.ค.) ไปจนถึงวันที่ 14 มกราคม ประตูม่านเวียง 1 ในช่องทางเข้า-ออกสินค้าสำคัญระหว่างพม่า-จีน ในอำเภอหมู่เจ้ ได้กลับมาเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกครั้ง เป็นเวลา 10 วัน เพื่อทดสอบระบบสาธารณสุข และการกำกับดูแลการส่งออก-นำเข้าสินค้าระหว่างพม่า-จีน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงอยู่
การเปิดประตูม่านเวียง 24 ชั่วโมง เป็นไปตามมติที่ประชุมระหว่างอู หล่ายโซตัน นายอำเภอหมู่เจ้ กับหย่าง ฉีหย่ง นายอำเภอรุ่ยลี่ ณ สถานที่ประชุมชั่วคราว บริเวณประตูฉ่วย นานดอ เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา
หมู่เจ้เป็นอำเภอชายแดนในจังหวัดหมู่เจ้ ภาคเหนือของรัฐชาน ส่วนรุ่ยลี่ เป็นอำเภอชายแดนของเขตปกครองตนเองชนชาติไตและจิ่งพัว เต๋อหง มณฑลยูนนาน ประชากรส่วนใหญ่ของหมู่เจ้และรุ่ยลี่เป็นคนชาติพันธุ์ไตเหมือนกัน ที่เหลือเป็นชาวจิ่งพัว (คะฉิ่น) และชาวจีนฮั่น
หมู่เจ้-รุ่ยลี่เป็นประตูการค้าที่สำคัญและมูลค่าสูงที่สุด ระหว่างพม่า-จีน สินค้าส่วนใหญ่ที่พม่านำเข้าจากจีนและสินค้าส่งออกจากพม่าเข้าไปยังจีน เกือบทั้งหมดต้องผ่านประตูนี้
ทั้งพม่าและจีน ต่างสถาปนาหมู่เจ้กับรุ่ยลี่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อสนับสนุนการค้า การลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ
ในปีงบประมาณ 2559-2560 มูลค่าการค้าระหว่างพม่าและจีนผ่านช่องทางหมู่เจ้-รุ่ยลี่ สูงถึง 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มขึ้นเป็น 5.8 พันล้านดอลลาร์ในปี 2560-2561
ปี 2561-2562 มูลค่าการค้าที่หมู่เจ้-รุ่ยลี่ลดลงมาเหลือ 4.9 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2562 เกิดเหตุสู้รบอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มพันธมิตรภาคเหนือกับกองทัพพม่า มีการวางระเบิดสะพานก๊กตวิน ในหุบเขาก๊กเทค ที่อำเภอหนองเขียว จังหวัดจ๊อกแม จนใช้การไม่ได้ ทำให้ทางหลวงหมายเลข 3 (หมู่เจ้-ล่าเสี้ยว-มัณฑะเลย์) ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าที่ซื้อขายกันระหว่างพม่า-จีน ต้องถูกปิดไปนานกว่า 1 เดือน
ส่วนปีถัดมา (2562-2563) มูลค่าการค้ายังคงลดลงต่อเนื่อง เพราะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องมีการปิดช่องทาง และจำกัดเวลาเข้า-ออกของรถสินค้าระหว่างหมู่เจ้-รุ่ยลี่ โดยกระทรวงพาณิชย์พม่าตั้งเป้ามูลค่าการค้าที่นี่ในปี 2562-2563 ไว้ที่ 5 พันล้านดอลลาร์ แต่ทำได้จริงแค่ 4.86 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น
ในหมู่เจ้ มีช่องทางเข้า-ออกของคนและสินค้า ระหว่าง 2 ประเทศอยู่หลายจุด นอกจากประตูม่านเวียง ซึ่งเป็นช่องทางหลักสำหรับส่งออกสินค้าประมง และผลิตผลทางการเกษตรจากพม่าเข้าไปในจีนแล้ว ยังมีประตูป่างซาย-วันติ่ง และประตูจินซานจ่อ ซึ่งเป็นอีก 2 ช่องทางเข้า-ออกของสินค้า กับประตูฉ่วย นานดอ และประตูช้างเผือก ที่เป็นช่องทางเข้า-ออกของคนเป็นหลัก
หลังโควิด-19 กลับมาระบาดรอบ 2 ในพม่าตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ฝ่ายบริหารท้องถิ่นฝั่งจีนได้นำมาตรการเข้มงวดมาใช้ป้องกันไม่ให้โควิด-19 แพร่ลามเข้าไปในพื้นที่ โดยสั่งปิดช่องทางเข้า-ออกบางจุด เช่น ประตูฉ่วย นานดอ กับประตูช้างเผือก ส่วนจุดที่ยังเปิดอยู่ ทั้งประตูม่านเวียง จินซานจ่อ ป่างซาย-วันติ่ง ได้จำกัดเวลาให้บริการแต่ละวันไว้แค่ช่วง 6 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม
นอกจากนี้ ยังนำระบบหมุนเวียนคนขับรถสินค้ามาใช้ จำกัดจำนวนคนขับรถสัญชาติพม่าที่สามารถข้ามเข้าไปในเขตจีนได้เพียง 50 คน โดย 50 คนนี้ ต้องผ่านการตรวจเชื้อแล้วว่าไม่ติดโควิด-19 และมีการเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจเพื่อติดตามผลทุก 3 วัน
การจำกัดเวลาเปิดทำการและนำระบบหมุนเวียนคนขับรถมาใช้ ทำให้รถสินค้าที่เดินทางมาจากทั่วทุกรัฐ ทุกภาคในพม่า เมื่อมาถึงหมู่เจ้ ต้องจอดรอเป็นเวลานานหลายชั่วโมง และบางครั้งกินเวลาหลายวัน ส่งผลให้สินค้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประมงและผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึง 18 ธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็น 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563-2564 มูลค่าการค้าผ่านช่องทางหมู่เจ้-รุ่ยลี่ ลดลงมาเหลือเพียง 785.6 ล้านดอลลาร์ น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีงบประมาณก่อนถึง 468 ล้านดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากการใช้มาตรการเข้มงวดในการป้องกันโควิด-19
การเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ที่ประตูม่านเวียง จึงเป็นหนทางที่ 2 ฝ่ายเห็นพ้องกันว่าจะทำให้การค้าขายของ 2 ประเทศกลับมาสู่สภาพปกติ เพื่อให้มูลค่าการค้าของ 2 ประเทศที่นี่กลับขึ้นมาอยู่ในระดับปีละมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์อีกครั้ง
โดยที่ประตูม่านเวียง ช่วงที่มีการจำกัดเวลาให้บริการ มีรถสินค้าเข้า-ออกเฉลี่ยวันละ 150 คัน ทั้งจีนและพม่าคาดหมายว่าหลังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว จำนวนรถสินค้าผ่านประตูม่านเวียงจะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 250-300 คัน
และหากในช่วง 10 วันที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงที่ประตูม่านเวียง ไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องที่จะขยายเวลาให้บริการ รวมถึงเปิดจุดผ่านแดนในช่องทางอื่นๆเพิ่มขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม ฝั่งจีนยังคงใช้มาตรการหมุนเวียนคนขับรถสินค้า แต่จะมีการทบทวนปรับปรุงระบบ และเพิ่มการดูแลสุขภาพของคนขับรถสัญชาติพม่า 50 คน ให้ดีขึ้น
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ฝ่ายสาธารณสุข เมืองวันติ่ง ฝั่งรุ่ยลี่ ได้นำวัคซีนป้องกันโควิด-19 มาฉีดให้แก่คนขับรถสินค้าสัญชาติพม่า 23 คน ที่ได้รับอนุญาตให้ขับรถเข้าไปในเขตจีนผ่านประตูจินซานจ่อ ทำให้ 23 คนนี้ ถือเป็นคนสัญชาติพม่ากลุ่มแรกที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากจีน
โดยก่อนฉีดวัคซีน ฝ่ายสาธารณสุข เมืองวันติ่ง ได้เรียกคนขับรถสัญชาติพม่า 29 คนมาตรวจสุขภาพ และพบว่า 6 คน มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวาน และบางคนมีพฤติกรรมดื่มสุราและเบียร์ ทำให้เหลือคนที่สามารถฉีดวัคซีนได้ 23 คน
ตามกำหนดการ หลังจาก 23 คนนี้ฉีดเข็มแรกไปแล้วครบ 14 วัน ต้องกลับมาฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 อีกครั้งหนึ่ง.
(ภาพประกอบจาก IPRD Muse - ฝ่ายข้อมูลข่าวสารเมืองหมู่เจ้)
