รอยเตอร์ - พม่าออกมาตรการให้ดำเนินการกักตัวและตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กับผู้ที่เดินทางเข้าเมืองหลวง หลังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมากในวันพุธ (2) ขณะที่นางอองซานซูจีเตือนว่า การระบาดของโควิด-19 เป็นภัยพิบัติต่อประเทศ
สำหรับผู้ที่จะเดินทางเข้ากรุงเนปีดอ เมืองหลวงของพม่าซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาล จะต้องถูกกักตัวและตรวจหาเชื้อไวรัส โดยจะได้รับอนุญาตให้เข้าเมืองต่อเมื่อผลตรวจเป็นลบ ตามคำสั่งของรัฐบาลพม่าที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก
คำสั่งยังระบุว่า คนที่มาจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักจะถูกกักตัวในสถานที่กักตัวอย่างน้อย 7 วัน แต่หากผลตรวจเชื้อเป็นลบจะได้รับอนุญาตให้ออกจากสถานที่กักตัวเร็วขึ้น
พม่าพบการติดเชื้อภายในท้องถิ่นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน เมื่อช่วงกลางเดือน ส.ค. ที่รัฐยะไข่ นับจากนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมของประเทศเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า ที่ 1,059 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 6 คน ตามข้อมูลของรัฐบาล
ผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในรัฐยะไข่ พื้นที่ที่กองกำลังทหารของรัฐบาลกำลังต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ และทางการยังจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่
การติดเชื้อระลอกล่าสุดเกิดขึ้นเมืองสิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ ที่เจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งให้ประชาชนอยู่กับบ้านและประกาศใช้เคอร์ฟิว
เมืองสิตตะเวเป็นที่ตั้งของค่ายพักที่ชาวโรฮิงญาราว 100,000 คน ถูกกักขังนับตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นในปี 2555 ชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธการเป็นพลเมืองและเผชิญต่อการจำกัดเสรีภาพการเคลื่อนไหวและการเข้าถึงการดูแลสุขภาพอย่างเข้มงวด
เวลานี้พม่าพบผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ รวมทั้งที่นครย่างกุ้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สั่งล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วนของเมืองเมื่อวันอังคาร (1) และสั่งให้ประชาชนอยู่กับบ้านยกเว้นการเดินทางที่จำเป็น ส่วนบาร์และไนต์คลับต้องปิดให้บริการ
ซูจี กล่าวว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งจะถูกลงโทษตามกฎหมายภัยพิบัติทางธรรมชาติ ที่มีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี
“หากการระบาดแพร่กระจายไปทั่วย่างกุ้ง การให้การรักษาพยาบาลแก่ประชาชนจะเป็นเรื่องที่ยากมาก” ซูจี กล่าว
ส่วนแพทย์กล่าวว่า พวกเขากลัวว่าจะเกิดการระบาดครั้งใหญ่ในประเทศ ที่ระบบสาธารณสุขจัดอยู่ในกลุ่มที่ย่ำแย่ที่สุดของโลกหลังจากถูกละเลยในช่วงการปกครองของรัฐบาลทหาร โดยบริการต่างๆ ดำเนินการโดยอาสาสมัคร และกลุ่มช่วยเหลือ.
