รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่กำลังต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในรัฐยะไข่ของพม่า ได้เรียกร้องให้ทางการพม่าฟื้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เพื่อช่วยจัดการกับการติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่ที่มีผู้พลัดถิ่นหลายหมื่นคน
ภูมิภาคแห่งนี้มีการแพร่กระจายของโรครวดเร็วที่สุดในพม่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 80 คน จากจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดในประเทศ 474 คน
พม่า ที่อ้างเหตุผลด้านความมั่นคง ได้ควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง ที่มีคนจำนวนมากอาศัยอยู่ในค่ายพักหลายแห่งเนื่องจากการสู้รบระหว่างกองทัพและกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์
เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือบรรเทาทุกข์จาก 3 กลุ่ม กล่าวว่า รัฐบาลควรฟื้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต 4G เพื่อช่วยแจ้งข่าวสารเกี่ยวกับไวรัสให้แก่ประชาชน
“หากพวกเขาไม่ทำในตอนนี้ที่ข้อมูลข่าวสารมีความสำคัญ มันจะถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ว่าเป็นอาชญากรรม” ซอ ซอ ตุน เลขาธิการของ Rakhine Ethnic Congress หนึ่งในกลุ่มช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ กล่าว
การปิดกั้นสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน มิ.ย.2562 โดยมีกำหนดที่จะยกเลิกมาตรการดังกล่าวในเดือนนี้ โดยบางพื้นที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ แต่บางพื้นที่สัญญาณอินเทอร์เน็ตก็ช้ากว่าเครือข่าย 2G
โฆษกรัฐบาลไม่ได้ตอบรับโทรศัพท์ที่รอยเตอร์ติดต่อขอความเห็น
อ่อง ทัน ตุน เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอีกรายหนึ่งกล่าวว่า การเข้าถึงอย่างจำกัดทำให้เกิดข่าวลือและข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ได้ง่ายขึ้น
การติดเชื้อที่พบในเร็วๆ นี้ ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองสิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ ที่เจ้าหน้าที่ได้กำหมดมาตรการให้ประชาชนอยู่กับบ้านและประกาศใช้เคอร์ฟิว
เมืองสิตตะเวยังเป็นที่ตั้งของค่ายพักชาวมุสลิมโรฮิงญาหลายแห่ง ที่ชาวโรฮิงญาราว 100,000 คน ถูกจำกัดขอบเขตนับตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นในปี 2555 และชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่ถูกปฏิเสธการเป็นพลเมืองและยังเผชิญต่อการควบคุมเสรีภาพในการเคลื่อนย้ายและการเข้าถึงการดูแลสุขภาพอย่างเข้มงวด แม้นางอองซานซูจี เคยกล่าวว่าประชาชนทุกความเชื่อทุกชาติพันธุ์จะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม
ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เมืองมรัคอู ในรัฐยะไข่ ที่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตถูกจำกัดอยู่แค่ระบบ 2G พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 3 คน.
