xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มผู้สังเกตการณ์พม่าชี้รัฐขวางตรวจสอบเลือกตั้งกระทบความโปร่งใสใหญ่หลวง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - ผู้อำนวยการกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อการเลือกตั้งน่าเชื่อถือ (PACE) ที่เป็นกลุ่มตรวจสอบการเลือกตั้งกลุ่มใหญ่ที่สุดของพม่า กล่าววันนี้ (14) ว่า การห้ามกลุ่มเข้าร่วมสังเกตการณ์ จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อความโปร่งใสของการเลือกตั้งระดับชาติในเดือน พ.ย.นี้

พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางอองซานซูจี ชนะการเลือกตั้งเมื่อ 5 ปีก่อนอย่างถล่มทลาย และในการเลือกตั้งครั้งถัดไปมีกำหนดจัดในวันที่ 8 พ.ย.นี้

กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อการเลือกตั้งน่าเชื่อถือ (PACE) คาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้ง เนื่องจากมาตรการข้อจำกัดต่างๆ เกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะขัดขวางผู้สังเกตการณ์จากต่างชาติ

แต่อย่างไรก็ตาม ซาย เย จ่อ สวา มี้น ผู้อำนวยการ PACE ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสฯ (13) ว่า กลุ่มถูกเจ้าหน้าที่ห้ามมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งครั้งนี้

“มันเป็นวันที่น่าเศร้ามาก” จ่อ สวา มี้น กล่าว และว่าองค์กรของเขา ที่อ้างว่ามีผู้สังเกตการณ์มากกว่า 2,900 คน เคยเข้าร่วมตรวจสอบการเลือกตั้งในปี 2558 การเลือกตั้งซ่อมปี 2560 และการเลือกตั้งระดับเทศบาลปี 2562

“การห้าม PACE มีส่วนร่วม จะมีผลกระทบอย่างมากต่อความโปร่งใสของกระบวนการ” ผู้อำนวยการกลุ่ม กล่าว

ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นก่อให้เกิดความไม่พอใจ ซึ่งกลุ่มประชาสังคมมากกว่า 450 กลุ่ม ได้ออกคำแถลงร่วมเรียกร้องให้กลับคำตัดสินดังกล่าวในนามของการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม

คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งสหภาพ (UEC) กล่าวกับ PACE เมื่อปลายเดือนก่อนว่า PACE จะถูกห้ามเข้าร่วมในการเลือกตั้ง เนื่องจาก “ได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรระหว่างประเทศโดยไม่ได้จดทะเบียนอย่างเป็นทางการ”

ซาย เย จ่อ สวา มี้น กล่าวว่า กลุ่มของเขาเปิดกว้างเสมอต่อทุนสนับสนุน และโต้แย้งว่าการรับเงินจากต่างชาตินั้นเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย

“หากไม่มี PACE การเลือกตั้งจะไม่น่าเชื่อถือ” ขิ่น ซอ วิน กล่าว ผู้อำนวยการสถาบันตัมปะดีปะ (Tampadipa Institute) กลุ่มสนับสนุนนโยบาย กล่าว และยังตั้งคำถามถึงความยุติธรรมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่พรรครัฐบาลเป็นผู้เลือกสมาชิกทั้งหมด

“คุณไม่สามารถมีประชาธิปไตยที่น่านับถืออย่างแท้จริงได้หากปราศจากคณะกรรมการการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือ” ขิ่น ซอ วิน กล่าว

คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรค NLD ของนางอองซานซูจี จะได้รับเลือกให้กลับมาบริหารประเทศเช่นเดิม แม้ความผิดหวังในหมู่ชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์จะสูงขึ้นก็ตาม.
กำลังโหลดความคิดเห็น