รอยเตอร์/เอเอฟพี - เวียดนาม หนึ่งในผู้บริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่ารายใหญ่ที่สุดของเอเชีย ได้ระงับการนำเข้าสายพันธุ์สัตว์ป่าทั้งหมด ไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว และให้คำมั่นที่จะกำจัดตลาดค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายทั่วประเทศ
คำสั่งที่ลงนามโดยผู้นำเวียดนามมีขึ้นหลังเหตุอื้อฉาวในต่างประเทศเกี่ยวกับการค้าสัตว์ป่า และยังถูกกล่าวโทษว่าเป็นที่มาของการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน
นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ออกคำสั่งห้ามค้าสัตว์ป่าซึ่งมีผลบังคับใช้ทันที เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดการระบาดครั้งใหม่ คำแถลงของรัฐบาลเวียดนามที่ออกในคืนวันพฤหัสฯ (23) ระบุ
นับเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับกลุ่มนักอนุรักษ์ที่เคยกล่าวหาเจ้าหน้าที่เวียดนามละเลยการค้าสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและข้ามพรมแดน
“นายกรัฐมนตรีสั่งระงับการนำเข้าสัตว์ป่า ทั้งที่ยังมีชีวิตและตายแล้ว ไข่ ชิ้นส่วน หรือสิ่งอื่นใดที่ได้มาจากสัตว์ป่า ประชาชนทุกคนโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ต้องไม่เข้าร่วมในการล่า ซื้อขาย ขนส่ง สัตว์ป่าผิดกฎหมาย” คำสั่งที่ระบุอยู่บนเว็บไซต์ของรัฐบาล ระบุ
แม้จะมีความยินดีต่อความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลเวียดนาม แต่องค์กรด้านการอนุรักษ์กล่าวว่า คำสั่งนี้ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอ
“การห้ามบริโภคสัตว์ป่าที่กล่าวถึงในคำสั่งยังไม่เพียงพอ เนื่องจากสัตว์ป่าบางอย่างถูกนำไปใช้เป็นยา หรือถูกเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง ซึ่งคำสั่งยังครอบคลุมไม่ถึง” เหวียน วัน ท้าย ผู้อำนวยการองค์กร Save Vietnam's Wildlife กล่าว
ผลิตภัณฑ์สัตว์ที่ถูกลักลอบค้าบ่อยที่สุด คือ ชิ้นส่วนของเสือ นอแรด และเกล็ดตัวนิ่ม ที่มักถูกใช้ในยาแผนโบราณ
“มันจะดีกว่านี้ถ้ามีรายการการใช้สัตว์ป่าในรูปแบบต่างๆ ที่ถูกห้ามอย่างละเอียดและชัดเจน” ผู้อำนวยการองค์กร กล่าว
ในเดือน ก.พ. องค์กรด้านการอนุรักษ์ 14 แห่งในเวียดนามส่งจดหมายเรียกร้องให้รัฐบาลระบุและปิดตลาดและสถานที่ต่างๆ ที่ขายสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
รายงานระบุว่า เวียดนามมีตลาดค้าสัตว์ป่าอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งการค้าสัตว์ป่าทางออนไลน์ เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายไม่เต็มที่.