MGR ออนไลน์ -- บริษัทรอยัลเรลเวย์กัมพูชาได้เปิดเดินรถอีกช่วงหนึ่ง ในวันอังคาร 29 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นช่วงยาวจาก จ.พระตะบอง ไปยัง จ.โพธิสัตว์ ระยะทาง 107 กิโลเมตร ในความพยามฟื้นฟู "รถเพลิง" กลับมาใช้งานอีกครั้ง โดยตั้งเป้า 4 ก.ค. จะเปิดช่วงสุดท้าย และเป็นช่วงยาวที่สุด ระหว่างโพธิสัตว์ไปยังกรุงพนมเปญ ซึ่งจะทำให้สามารถเดินทางจากเมืองหลวงกัมพูชา สู่เมืองปอยเปต ติดชายแดนอรัญประเทศของไทยได้ในทันที
นายสุ่น จันทอล (Sun Chanthol) รัฐมนตรีอาวุโสว่าการกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง ประกาศเรื่องนี้ระหว่างทำพิธีเปิดเดินรถ ที่สถานีพระตะบอง
นายจันทอลกล่าวว่า ทางรถไฟช่วงใหม่นี้ประกอบด้วย 16 สถานี รัฐบาลใช้งบประมาณ 17.1 ล้านดอลลาร์ ในการฟื้นฟูและก่อสร้างขึ้นใหม่ โดยจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ฟรีไปจนถึงวันที่ 1 ส.ค. คือ หลังการเลือกตั้ง 29 ก.ค.ผ่านไป เช่นเดียวกันกับอีก 2 ช่วงที่เปิดมาก่อน คือ ช่วง 48 กม. จากเมืองชายแดนปอยเปต ไปเมืองศรีโสภณ จ.บ้านใต้มีชัย เมื่อต้นเดือน เม.ย. -- อีกช่วงในวันสิ้นเดือน เม.ย. จากศรีโสภณไปพระตะบองระยะทาง 65 กม.
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบราง ระยะทางทั้งสิ้น 386 กม.จากกรุงพนมเปญไปยังปอยเปต นายจันทอลย้ำว่าช่วงยาวที่สุด ที่เหลืออยู่อีก 166 กม. จากโพธิสัตว์ ไปยังเมืองหลวง จะต้องแล้วเสร็จในวันที่ 4 ก.ค. หรืออีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้า
ทางรถไฟสายเหนือ-ตะวันตก สร้างขึ้นระหว่างปี 1929-1942 ในยุคอาณานิคมฝรั่งเศส สงครามภายในกัมพูชา ระหว่างทศวรรษที่ 1960-1980 ทำให้ระบบรางถูกทำลายลงเรื่อยๆ ทั้งจากการทิ้งระเบิด และ จากการทำลายโดยกองกำลังอาวุธของฝ่ายต่างๆ จนกระทั่งต้องหยุดเดินรถในที่สุด
"วันที่ 4 กรกฎาคม เราจะเปิดเดินรถสายตะวันตกที่ฟื้นฟูขึ้นใหม่ ระยะทางรวม 388 กม.อย่างเป็นทางการ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะทำให้เราสามารถเชื่อมประเทศของเรากับประเทศไทย โดยทางรถไฟได้" และ "ชาวกัมพูชาจะสามารถขึ้นรถไฟจากท่าเรือสีหนุวิลล์ เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ และ จากพนมเปญไปโพธิสัตว์ พระตะบอง ศรีโสภณ เมืองปอยเปต และประเทศไทยในที่สุด" นายจันทอลกล่าว
"วันนี้ผมสัญญาต่อประชาชนว่า วันที่ 4 ก.ค.จะมีรถไฟเชื่อมระหว่างพวกเรา ช่วงสุดท้ายจากโพธิสัตว์ไปยังกรุงพนมเปญ ระยะทาง 166 กม. จะเป็นช่วงสุดท้ายของรถไฟสายเหนือ" รัฐมนตรีอาวุโสกล่าว
ตามข้อมูลทางการนั้น การฟื้นฟูทางรถไฟสายเหนือ-ตะวันตก ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 96.6 ล้านดอลลาร์ ในนั้นประมาณ 13 ล้านดอลลาร์เป็นเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี -- 83.6 ล้านดอลลาร์ เป็นเงินงบประมาณของรัฐบาล.
.
