xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กโจ๊ก” ลุยแดนเขมร รวบ “รัตนะ เฮง” มือโพสต์กุข่าวใส่ร้าย “บิ๊กตู่” ไล่คนเติมน้ำเปล่าแทนน้ำมัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - “บิ๊กโจ๊ก” ลุยถิ่นกัมพูชา ตามรวบ “รัตนะ เฮง” หนุ่มเขมรแสบตัวการทำเว็บปลอมโพสต์ปั่นข่าวดิสเครดิต “บิ๊กตู่” ไล่เติมน้ำเปล่าแทนน้ำมัน รับเปิดเว็บจริง แต่ปัดไม่รู้เรื่องโพสต์ใส่ร้าย “บิ๊กตู่” ตำรวจไม่ปักใจเชื่อหลังพบเคยทำมาแล้ว 3 ครั้ง หิ้วตัวมาไทยรีดหาตัวคนบงการ

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท) และคณะเดินทางกลับจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พร้อมควบคุมตัว นายรัตนะ เฮง สัญชาติกัมพูชา ผู้ต้องหมายจับศาลอาญาที่ 1154/2561 ลงวันที่ 30 พ.ค. 2561 ในความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” โดยนำตัว นายรัตนะ เฮง ที่ถูกจับกุมได้ในช่วงบ่ายจากกัมพูชามาดำเนินคดีที่ประเทศไทย

ทั้งนี้ นายรัตนะ เฮง เป็นผู้ทำเว็บไซต์ข่าวปลอมชื่อ “Ratstas.com” ที่พาดหัวข่าวว่า “บิ๊กตู่” ฟิวส์ขาด ด่ากราด ไล่ให้เติม “น้ำเปล่า” แทนดีเซล อย่าโง่ วอนประชาชนอย่าเรื่องมาก” อันเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ เพื่อโจมตีรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยใช้ประเทศกัมพูชาเป็นฐานที่มั่นกบดาน

โดยในช่วงเช้า พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เข้าพบ พล.อ.เซา ซก คา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือนของกัมพูชา เพื่อประสานความร่วมมือติดตามตัว นายรัตนะ เฮง ซึ่งทางการกัมพูชาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยเบื้องต้น พล.อ.เซา ซก คา สั่งการให้เจ้าหน้าที่กัมพูชาสนธิกำลังกับตำรวจไทยลงพื้นที่ โดยกระจายกำลังออกเป็นสองชุด เข้าตรวจสอบบ้านพักของ นายรัตนะ จนกระทั่งเวลา 15.00 น. มีรายงานว่า สามารถคุมตัว นายรัตนะ เฮง ได้ที่ห้างสรรพสินค้าซาเตียนเมียนเจย กลางกรุงพนมเปญ ขณะเดินซื้อสินค้าภายในห้างดังกล่าว จึงคุมตัว นายรัตนะ มาทำการสอบสวน

ภายหลังการจับกุม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นสร้างความเสียหาย ความสับสนในข้อมูลข่าวสารในประเทศ และกระทบต่อเสถียรภาพของทางรัฐบาล ซึ่งทางตนได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. ให้ตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าว จนทราบว่าจดทะเบียนโดย นายรัตนะ เฮง ชาวกัมพูชา อีกทั้งมีการสร้างข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยรอบปีนี้มีการนำข้อมูลอันเป็นเท็จถึง 3 ครั้ง มีการบิดเบือนข้อมูลการสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี 1 ครั้ง บิดเบือนด้านนโยบายรัฐบาล 1 ครั้ง และโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดนครราชสีมา โดยข้อมูลที่เผยแพร่ออกไปทางโซเชียล ถูกส่งต่อออกไปเป็นจำนวนมาก

“การบิดเบือนข้อมูลของ นายรัตนะ เฮง กระทบต่อความมั่นคงและความเชื่อมั่นของรัฐบาลรวมถึงตัวของนายกรัฐมนตรี และส่งผลถึงปัญหาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ จึงต้องเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด โดยสามารถควบคุมตัวแอดมินเพจรายนี้ได้แล้ว” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนเบื้องต้นนายรัตนะ อ้างว่า เว็บไซต์ดังกล่าวจดในนามของตนเองจริง ซึ่งการเปิดสมัครเว็บไซต์ที่ประเทศกัมพูชา จำเป็นต้องมีการยืนยันตัวบุคคลด้วยเลขหน้าบัตรเครดิต โดยเพื่อนของตนที่ชื่อหลุยส์ เป็นผู้ขอให้เปิดเว็บไซต์ดังกล่าวให้ อีกทั้งไม่มีส่วนรู้เห็นกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบ พร้อมขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่สร้างความเสียหายให้กับทางรัฐบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อในคำให้การ หลังพบว่ามีรายได้เข้าบัญชีของนายรัตนะ ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากการที่มีคนกดไลก์ กดแชร์ติดตามข่าวสาร รวมทั้งพบบทสนทนาระหว่าง นายหลุยส์ กับน ายรัตนะ พูดคุยกัน โดยที่นายหลุยส์ขอให้นายรัตนะทำการปิดเว็บไซต์หลังถูกทางการไทยติดตาม ซึ่งหลังจากนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อไป

นอกจากนี้ มีรายงานการตรวจสอบประวัตินายรัตนะ ว่า เป็นนักธุรกิจจำหน่ายเครื่องสำอาง อัญมณี และจำหน่ายเงินสกุลอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บิตคอยน์ จบการศึกษาด้านไอที ทำให้มีความเชี่ยวชาญในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ และมีความชื่นชอบติดตามข้อมูลข่าวสารจากประเทศไทย เพื่อหาข้อมูลมาสร้างข่าวบิดเบือน แต่ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับกลุ่ม 6 คนไทยที่ตำรวจท่องเที่ยวจับกุมตัวมาแล้ว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความผิดตามมาตรา 14 และ 17 ของ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับเป็นเงิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อหาตามมาตรา 116 ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกทางการเมืองในประเทศไทย ก่อนคุมตัวไปสอบสวนขยายผลว่ามีผู้ใดอยู่เบื้องหลังในการจ้างวานเพื่อบิดเบือนข่าวสารหรือไม่ เพื่อดำเนินคดี ก่อนนำตัวฝากขังที่ศาลอาญาในวันนี้ (1 มิ.ย.) ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น