MGR Online - รองโฆษก ตร.แจงขั้นตอนติดตามตัว “ยิ่งลักษณ์” ใช้ช่องทางตำรวจสากลมาโดยตลอด แต่ถูกปฏิเสธออกหมายน้ำเงินสืบหาที่อยู่ อ้างเป็นคดีการเมือง แต่ไม่ตัดสิทธิทางการไทยที่จะติดตามเอง ยันอดีตนายกฯ ได้วีซ่าอังกฤษ 10 ปี ไม่ได้ใช้พาสปอร์ตไทยแน่นอน เตรียมประสานขอทราบแหล่งพำนัก
วันนี้ (1 มิ.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลบหนีคดีเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่ก่อนมีคำพิพากษาคดีจำนำข้าวของศาลฎีกาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต่อมาสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้วีซ่าพำนักในประเทศอังกฤษเป็นเวลา 10 ปี ว่าเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2560 หลังจากที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองออกหมายจับ ที่ 34/2560 ลงวันที่ 27 ก.ย. 2560 ฐานความผิด ป.อาญา มาตรา 157 (เดิม) และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ม.123/1 อันเป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ อันเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด จำคุก 5 ปี โดยไม่รอลงอาญานั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกประกาศสืบจับและสั่งการให้ทุกหน่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัวไปแล้ว นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือส่งหมายจับไปที่ กต.เพื่อพิจารณาดำเนินการถอนหนังสือเดินทางและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง กต.ได้แจ้งยกเลิกหนังสือเดินทางประเทศไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์แล้วทุกฉบับ
ในส่วนของการทำคำขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถือเป็นผู้ต้องคำพิพากษาจำคุก 5 ปีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีจำนำข้าว ว่าตามที่มีภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในสื่อต่างๆ ไปปรากฏในประเทศต่างๆ ก็เป็นข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งการจะยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้นั้นต้องชัดเจนเรื่องที่อยู่ในประเทศที่ร้องขอ และเงื่อนไขการขอตามที่บัญญัติใน พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ที่เป็นคดีความผิดโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี, เป็นคดีอาญาความผิดทั้ง 2 ประเทศ และไม่ใช่เรื่องการทหารหรือการเมือง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการยืนยันที่อยู่ที่แน่นอน หลังจากนั้น ทาง ตร.จะส่งให้ทางอัยการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศปลายทางต่อไป
ในส่วนของ ตร.ได้ใช้ช่องทางตำรวจสากลในการติดต่อประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับประเทศสมาชิกทั้ง 192 ประเทศมาโดยตลอด ในส่วนการประสานงานกับตำรวจสากลพิจารณาออกหมายน้ำเงิน เพื่อสืบเสาะหาแหล่งพักพิง ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น ทาง ตร.ได้ยื่นคำขอไปแล้ว ต่อมาวันที่ 2 มี.ค. 2561 ทางตำรวจสากลได้ปฏิเสธการออกหมายน้ำเงินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องทางการเมือง
ต่อมาสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นขอวีซ่าเข้าพำนักในอังกฤษได้เป็นระยะเวลา 10 ปี ซึ่งเป็นวีซ่าเข้าออกอังกฤษได้ตลอดและสามารถอยู่ได้ครั้งละไม่เกิน 6 เดือน ในเรื่องวีซ่าอังกฤษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้หนังสือเดินทางของประเทศอื่นไปขอวีซ่า ขณะนี้ยังพิสูจน์ทราบไม่ได้ว่าเป็นหนังสือเดินทางของประเทศใด แต่ไม่ใช่ของประเทศไทยแน่นอน โดยหนังสือเดินทางของประเทศไทย ทาง กต.ได้ถอนออกหมดแล้ว ซึ่งการอนุมัติวีซ่าก็เป็นดุลพินิจ หลักเกณฑ์ กรอบกฎหมายของประเทศนั้น เอง ไม่เกี่ยวข้องกับทางการไทยแต่อย่างใด
ทั้งนี้ การได้หนังสือเดินทางและวีซ่าเข้าออกประเทศต่างๆ รวมทั้งการปฏิเสธการออกหมายน้ำเงินเพื่อสืบเสาะแหล่งพักพิง ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิของเจ้าหน้าที่ในการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์มาดำเนินคดี ต่อไป ทาง ตร.จะประสานไปยังประเทศอังกฤษเพิ่มเติมถึงแหล่งพำนักของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ชัดเจน ซึ่งดำเนินการตามกรอบเวลา อำนาจหน้าที่ ที่ผ่านมายืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจและดำเนินการอย่างจริงจังมาโดยตลอด ที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือจากตำรวจต่างประเทศอยู่ตลอด
รองโฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้กำชับให้ดำเนินการในทุกมิติอย่างรอบคอบ ครบถ้วน และเร่งรัดติดตามผลมาโดยตลอด ที่ผ่านมามีความคืบหน้าไปมาก สำหรับในคดีนี้ขอยืนยันว่าดำเนินการอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกับคดีอาชญากรรมอื่นๆ ไม่มีการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอผลการตรวจสอบแหล่งข้อมูลจากหลายๆ ส่วน รวมทั้งข้อมูลจากต่างประเทศด้วย