"ฮุนเซน" สอนใคร? ลั่นสังคมต้องสงบมีสันติ จึงพัฒนาประชาธิปไตยต่อไปได้

MGR ออนไลน์ -- นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซนได้ย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า กัมพูชาจำเป็นจะต้องมีสันติภาพ จึงจะสามารถพัฒนาระบอบประช่าธิปไตย และ พัฒนาเศรษฐกิจสังคมให้เจริญมั่งคั่งต่อไปได้ ผู้นำที่มีอำนาจสูงสุดและครองอำนาจมายาวนาน 33 ปีกล่าวถึงเรื่องนี้ ระหว่างปราศรัยในพิธีเปิดการก่อสร้าง-ซ่อมแซมทางหลวงสายหลักสายหนึ่ง ใน จ.กันดาล ซึ่งในอนาคตข้างหน้าจะเป็นเส้นทางขนส่งสำคัญ ไปเชื่อมกับระบบทางหลวงของไทย ที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

นั่นคือทางหลวงสายที่ 5 ช่วงที่มีความยาว 135.24 กิโลเมตร จาก อ.แปร็กกะดัม ไปยัง จ.โพธิสัตว์ ที่สร้างด้วยเงินกู้ผ่อนปรน จากความช่วยเหลือของรัฐบาลญี่ปุ่น และ สร้างโดยบริษัทญี่ปุ่น

"สิ่งที่จำเป็นมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ จะต้องผดุงรักษาสันติภาพในประเทศนี้ให้ได้" และ "ถ้าไม่มีสันติภาพ ก็จะไม่มีการพัฒนา และ เราคงไม่อาจจะพูดจาเกี่ยวกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนได้ เพราะว่าสิ่งเหล่านี้จะมีอยู่คู่กับสันติภาพเท่านั้น" ผู้นำกัมพูชากล่าวในตอนหนึ่ง ทั้งชี้ให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ เหตุการณ์ในประเทศอิรัก ลิเบีย ซีเรีย และเยเมน ในขณะนี้ ที่มีประชาชนล้มตายไม่เว้นแต่ละวัน

"ที่นั่นไม่มีการพูดถึงประชาธิปไตย หรือ สิทธิมนุษยชนใดๆ" สำนักข่าวภาษาเขมาสสวิฟต์นิวส์ รายงานอ้างคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรี

ฮุนเซนได้กล่าวประณามการปลุกกระแสต่อต้านรัฐบาลโดยพรรคฝ่ายค้านเสมอมา ระบุว่าจะทำให้สังคมแตกแยก และ ประเทศกลับเข้าสู่ภาวะสงครามอีกครั้งหนึ่งในที่สุด และ หลายปีมานี้ทางการได้เข้มงวดกวดขัน การชุมนุมประท้วงที่ผิดกฏหมาย หรือ ไม่ได้ขออนุญาติ ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง และ บังคับใช้กฏหมายอย่างรัดกุม จับกุมผู่นำการประท้วงมาเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นตำรวจมักจะตั้งข้อหาอย่างรุนแรงที่สุดตามกฎหมายกำหนด

ระหว่างการปราศัยในพิธีเปิดการก่อสร้างทางหลวงสาย 5 เมื่อวันจันทร์นี้ นรม.กัมพูชา ยกตัวอย่างให้เห็นว่า เมื่อขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาลใหม่ๆ ในทศวรรษที่ 1980 ทางหลวงแห่งชาติของกัมพูชากว้างเพียง 7 เมตร และ ทุกแห่งก็เต็มไปด้วยเกวียน มีรถยนต์น้อยมาก ต่างไปจากปัจจุบัน เมื่อดูจากจำนวนยวดยานพาหนะต่างๆ บนท้องถนน
.



นรม.กัมพูชา ยังได้กล่าวขอโทษต่อประชาชนชาวกรุงพนมเปญ ที่มีการปิดถนนขณะขบวนรถของคณะผู้นำระดับสูง แล่นจากเมืองหลวงไปยัง จ.กันดาล เมื่อวันจันทร์ ทำให้การจราจรติดขัดไปทั่ว -- ซึ่งโดยปรกติแล้วตนเองจะไม่ให้มีการปิดถนนไม่ว่าจะไปไหนมาไหน แต่ครั้งนี้ -- ถ้าไม่มีการปิดถนนเมื่อวันจันทร์ ก็อาจจะถูกปิดกั้น และ อาจจะไม่มีการประชุมพบปะ (พิธีเปิดการก่อสร้าง) เพราะโดนรถราขวางทาง จนออกจากเมืองไม่ได้

"ผมขอยอมรับผิดที่ทำให้เกิดสันติภาพขึ้นในประเทศ มีการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น ทำให้มีรถรามากขึ้นทุกวันๆ จนทำให้กรุงพนมเปญรถติดไปทั่ว.." ฮุนเซนกล่าวอย่างติดตลก

"เนื่องจากสงครามยุติลง จากสงครามมาสู่สันติภาพ เป็นผลทำให้เกิดปัญหารถติด และ บางคนก็กล่าวโทษสมเด็จฮุนเซน .. เอาละ ผมยอมรับผิด.. ถ้ายังมีสงครามอยู่เช่นในยุคก่อน ก็คงจะไม่มีปัญหารถติด" นรม.กัมพูชากล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือชอบอกชอบใจ จากผู้คนจำนวนมาก รวมทั้งเอกอัครรัฐทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา ที่เข้าร่วมพิธีดังกล่าว

นรม.กัมพูช่าได้กล่าวขอขอบคุณ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นชินโซ อาเบ้ ที่ทำให้มีวันนี้ และ ขอขอบคุณรัฐบาลกับประชาชนญี่ปุ่น ที่ช่วยเหลือกัมพูชาตลอดมา เงินกู้ที่ใช้ในการซ่อมสร้างทางหลวงสายเก่าแก่นี้ ดอกเบี้ยเพียง 0.01% ต่อปีเท่านั้่น และ มีระยะเวลาใช้คืนถึง 40 ปี อันเป็นความเอื้อเฟื้อและความใจกว้างของรัฐบาล กับประชาชนญี่ปุ่นทั้งมวล

การซ่อมแซมครั้งต่อไป จะเป็นช่วงจาก จ.โพธิสัตว์ ไปยัง จ.พระตะบอง -- อีกทอดหนึ่งจากพระตะบองไปยัง อ.ศรีโสภณ จ.บ้านใต้มีชัย กับอีกช่วงสั้นๆ ไปยังด่านชายแดนปอยเปต ติดชายแดนไทย.