MGR ออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเรียกร้องให้แรงงานชาวเขมรที่กำลังทำงานอยู่ในประเทศไทย ให้เดินทางกลับไปทำงานในบ้านเกิด เนื่องจากปัจจุบันกัมพูชามีความต้องการแรงงานเป็นอย่างมาก เพราะโครงการลงทุนต่างๆ ผุดขึ้นมาทุกหัวระแหง ผู้นำกัมพูชากล่าวถึงเรื่องนี้ ระหว่างไปเยี่ยมเยือน และพบปะกับคนงานกว่า 20,000 คน ในวันพฤหัสบดี 10 พ.ค. ที่เมืองบ่าเว็ต (Bavet) จ.สวายเรียง (Svay Rieng) เมืองชายแดนกัมพูชา-เวียดนาม
ภาพที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊กแสดงให้เห็น นรม.กัมพูชา พบปะกับคนงานนับร้อยๆ คนอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับบรรดานักเรียนที่ไปรอต้อนรับ ขณะไปเยี่ยมที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง
บ่าเว็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งภาคตะวันออก เป็นเขตอุตสาหกรรมใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศ ประกอบด้วยโรงงานใหญ่น้อยรวมกันกว่า 60 โรง และยังเป็นเมืองที่มีโรงแรมและกาสิโนนับสิบแห่ง -- เป็นเขตเลือกตั้งที่ใหญ่มากในทางการเมือง ขณะที่การเลือกตั้งทั่วไป กำลังจะมีขึ้นในอีก 2 เดือนข้างหน้า
“ตอนนี้คนงานที่ไปทำงานในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ไปทำงานที่นั่นอย่างผิดกฎหมาย สามารถกลับมาทำงานที่บ้านได้แล้ว ตอนนี้เรากำลังขาดแคลนแรงงานอย่างมาก” ฮุนเซนกล่าว
นรม.กัมพูชายกตัวอย่าง ภาคโรงแรมที่นั่นเพียงอย่างเดียวต้องใช้พนักงานกว่า 1,000 คน และยังขาดอีกหลายร้อยคน ตอนนี้ความต้องการแรงงานมีสูงมาก เพราะมีงานเพิ่มขึ้น เงินเดือนก็เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละกว่า 200 ดอลลาร์ ทำงานในห้องปรับอากาศ ทั้งหมดนี้ยังมีตำแหน่งว่างรอรับอยู่เป็นร้อยๆ
.
ในภาคการเกษตรก็ไม่ต่างกัน -- สวนพริกไทยกับสวนการเกษตรอื่นๆ ล้วนขาดแคลนแรงงาน ขณะที่ชาวกัมพูชาอีกเป็นจำนวนมาก ยังคงเสี่ยงทำงานอยู่ในประเทศไทย เพราะคาดหวังว่าจะได้ค่าจ้างสูงกว่า -- แต่คงจะไม่ตระหนักว่าจะต้องจ่ายค่ากินค่าอยู่เท่าไร
นายกฯ กัมพูชายังใช้โอกาสนี้ไปเป็นประธานพิธีเปิดโรงงานประกอบรถยนต์แดฮาน โดยบริษัทร่วมทุน Daehan Auto (Cambodia) ที่ตั้งอยู่ภายในเขตอุตสาหกรรมยานยนต์ สำนักข่าวกัมพูชารายงานในวันเดียวกันว่า โรงงานแห่งนี้จ้างแรงงาน 243 คน เป็นหญิง 43 คน ผลิตรถยนต์ที่ใช้ในการพาณิชย์สนองความต้องการภายในประเทศ และเพื่อส่งออก
.
"สมเด็จฮุนเซน" ได้ใช้โอกาสนี้กล่าวเตือนบรรดาคนงาน และ ผู้ใช้แรงงานทั้งหลาย ให้ตั้งใจทำงาน บากบั่นต่อสู้กับงานหนัก รวมทั้ง "อย่าตกเป็นเครื่องมือของคนกลุ่มใด หรือบุคคลใด ที่พยายามก่อความไม่สงบ .. มีแต่ความสงบสันติเท่านั้น ที่จะทำให้เกิดการสร้างงานทำได้"
นรม.กัมพูชา ยังได้กล่าวถึงชะตากรรมของคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ที่ทุกข์ยากแสนเข็น คนนับล้านเสียชีวิตภายใต้มือเปื้อนเลือดของระบอบเขมรแดง ซึ่งนักเรียนนักศึกษา คนรุ่นใหม่อาจจะยังไม่ตระหนัก ต่างกับในปัจจุบันที่ประเทศมีสันติภาพ สังคมสงบสุข เศรษฐกิจพัฒนาและกำลังเติบโตในอัตราสูง
"การช่วยรักษาความสงบสุขของบ้านเมืองนั้นทำได้ง่ายมาก เพียงแต่ลงคะแนนให้พรรคประชาชนกัมพูชา พรรคเดียวเท่านั่้นที่จะนำรัฐนาวา สู่การพัฒนาในทุกๆด้าน เช่นที่ทำมาจนถึงวันนี้" ผู้นำวัย 65 ปีกล่าว
เมืองบ่าเว็ตเป็นจุดผ่านแดนสำคัญระหว่างกัมพูชากับเวียดนาม มาแต่โบราณกาล อีกฝั่งหนึ่งเป็นเมืองหม็อกบ่าย (Mộc Bài) จ.เตยนีง (Tây Ninh) ซึ่งห่างจากนครโฮจิมินห์ราว 150 กิโลเมตร -- เป็นจุดเริ่มต้นทางหลวงเลข 1 ที่ตัดเข้าสู่กรุงพนมเปญ เป็นเส้นทางหลักแนวเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สายสำคัญอีกสายหนึ่ง
กล่าวในทางกลับกันก็คือ ในปัจจุบันเส้นทางนี้เป็นทางตัดตรงที่สุด สั้นที่สุด สำหรับการเดินทางโดยทางบกจากกรุงเทพฯ ผ่านกรุงพนมเปญไปยังโฮจิมินห์ในเวียดนาม.
.