เอเอฟพี - เศรษฐกิจเวียดนามในไตรมาสแรกของปีขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 10 ปี ตามข้อมูลที่ทางการเวียดนามนำออกเผยวันนี้ (29) ซึ่งเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของภาคการผลิตและส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
อัตราการเติบโตดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ประเทศพร้อมขยายสู่ตลาดต่างประเทศหลังลงนามข้อตกลงการค้าของประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก 11 ประเทศในเดือนนี้ แทนข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ที่สหรัฐฯ ถอนตัวไปเมื่อปีก่อน
ผู้สังเกตการณ์ระบุว่า การเพิ่มขึ้นของการส่งออกเป็นสัญญาณที่ดีว่าตลาดของเวียดนามไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบายปกป้องทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
การขยายตัวของจีดีพีที่ร้อยละ 7.38 ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. ถือว่าเพิ่มขึ้นสูงจากอัตราร้อยละ 5 ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ตามการระบุของสำนักงานสถิติแห่งชาติ และยังเกินกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ที่ร้อยละ 6.7
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าดีที่สุดนับตั้งแต่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวที่ร้อยละ 7.4 ในระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. ปี 2551
ขณะที่ภาคการเกษตร และการค้าส่งและค้าปลีกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบปีต่อปี แต่ภาคการผลิตยังคงเป็นเสาหลักของการเติบโต ที่ขยายตัวมากกว่า 13%
เวียดนามเป็นฐานการผลิตสำคัญแห่งหนึ่งในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่ดึงดูดบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่เช่น LG Electronics Samsaung และ Canon ด้วยแรงงานราคาถูกและนโยบายเปิดประตูทางการค้า
สำหรับการเติบโตในไตรมาสแรกของปีก่อนแม้จะต้องชะงักงันหลังบริษัท Samsung ที่มีสัดส่วนราว 25% ของการส่งออกทั้งหมดของเวียดนาม ได้ประกาศเรียกคืนโทรศัพท์ Galaxy Note 7 ครั้งใหญ่อันเนื่องจากปัญหาการระเบิดของแบตเตอรี่ แต่การส่งออกฟื้นตัวขึ้น จนทำรายได้ไปมากกว่า 54,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก โดยขยายตัวขึ้นร้อยละ 22 เมื่อเทียบปีต่อปี ตามการระบุของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ Viet Capital Securities กล่าวว่า การส่งออกยังคงทำผลงานได้ดีแม้เผชิญกับนโยบาย “อเมริการต้องมาก่อน” ของทรัมป์
“สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ดังนั้งจึงมีความวิตกหลังการเลือกตั้งว่านโยบายของทรัมป์จะส่งผลกระทบกับการส่งออกของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ แต่ขณะเดียวกันเราเห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในการส่งออกไปจีนและสหภาพยุโรป ซึ่งจนถึงตอนนี้การส่งออกโดยรวมของเวียดนามไม่ได้รับความเสียหายจากนโยบายของทรัมป์” นักวิเคราะห์ กล่าว
หลังจากการเผยแพร่ข้อมูลสถิติดังกล่าว เจ้าหน้าที่ในกรุงฮานอยกล่าวว่า การเติบโตที่แข็งแกร่งในปลายปี 2560 ช่วยพยุงตัวเลขในไตรมาสแรก ขณะที่นักวิเคราะห์กล่าวว่ายังเร็วไปที่จะคาดการณ์ถึงการเติบโตรายปี
“เราอาจคาดการณ์ได้ว่าการเติบโตตลอดทั้งปีเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย แต่คงจะไม่มากนัก” นักวิเคราะห์ กล่าว
ด้านธนาคารโลกคาดการณ์ว่าการเติบโตของเวียดนามในปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 6.5 ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ Viet Capital Securities คาดการณ์ว่าร้อยละ 6.8.
