เอเอฟพี/รอยเตอร์ - 11 ประเทศลงนามในความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(TPP) ฉบับตัดทอนในวันพฤหัสบดี(8มี.ค.) ความเคลื่อนไหวลดภาษี สวนทางกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่กำลังหาทางปรับขึ้นภาษี หลังจากถอนตัวจากความตกลงดังกล่าว
เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย, บรูไน, แคนาดา, ชิลี, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, เม็กซิโก, นิวซีแลนด์, เปรู, สิงคโปร์ และเวียดนาม ลงนามอย่างเป็นทางการจัดตั้งสิ่งที่เรียกว่าข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ตลาดซึ่งเป็นตัวแทนของประชากร 500 ล้านคนและจะสามารถลดกำแพงภาษีระหว่างประเทศรวมกันได้มากกว่า 13% ของเศรษฐกิจโลก หรือเท่ากับ 10 ล้านล้านดอลลาร์ แต่หากรวมสหรัฐฯแล้วมันจะคิดเป็น 40 % ของเศรษฐกิจโลก
พิธีลงนามมีขึ้นในวันเดียวกับที่ยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องประธานาธิบดีทรัมป์ของสหรัฐฯ ให้ถอยห่างจากขอบเหวแห่งสงครามการค้าจากแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม
เฮรัลโด มูนอส รัฐมนตรีกิจการต่างประเทศของชิลี บอกระหว่างการแถลงข่าวว่าข้อตกลงนี้คือสัญญาณที่เข้มแข็งสำหรับต่อต้านแรงกดดันจากพวกผู้กีดกันทางการค้า โปรดปรานโลกที่เปิดรับการค้า ปราศจากการคว่ำบาตรฝ่ายเดียวและปราศจากภัยคุกคามของสงครามการค้า"
ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก(TPP) ฉบับดั้งเดิมที่ประกอบด้วย 12 ชาติสมาชิก ตกอยู่ในความไม่แน่นอนตั้งแต่ช่วงต้นปีที่แล้ว หลังจาก ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯพ้นจากข้อตกลงดังกล่าว เพียง 3 วันหลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง โดยอ้างว่าเพื่อปกป้องตำแหน่งงานของอเมริกา
อย่างไรก็ตามท้ายที่สุด 11 ชาติที่เหลือ นำโดยญี่ปุ่นและแคนาดา ก็บรรลุความตกลงการค้าฉบับแก้ไขในเดือนมกราคม และมันจะมีผลบังคับเมื่อสมาชิกอย่างน้อย 6 ประเทศเสร็จสิ้นขั้นตอนภายในสำหรับให้สัตยาบันรับรองข้อตกลงดังกล่าว
ในฉบับแก้ไขของ CPTPP จะตัดในส่วนของสหรัฐฯไป รวมไปถึงข้อกำหนดการเพิ่มมาตรการด้านกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญาของผลิตภัณฑ์ยา เนื่องมาจากรัฐบาลของชาติสมาชิก และบรรดานักเคลื่อนไหวในชาติต่างๆเกรงว่าจะเป็นการทำให้ยามีราคาแพงขึ้น
ทั้งนี้การเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงใหม่ที่มีการแก้ไขได้ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการที่นิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 21ก.พ.ที่ผ่านมา
เมื่อเดือนมกราคม ทรัมป์ บอกกับเวทีเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ในสวิตเซอร์แลนด์ ว่ามีความเป็นไปได้ที่วอชิงตันอาจหวนคืนสู่ TPP หากได้ข้อตกลงที่ดีกว่าเดิม อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีการค้านิวซีแลนด์ระบุว่ามันเป็นไปไม่ได้ในระยะสั้น ส่วนญี่ปุ่นก็บอกว่าการแก้ไขข้อตกลงในตอนนี้เป็นเรื่องยากมาก