ทางการพม่าเชื่อผู้ก่อการร้ายอยู่เบื้องหลังการสังหารชาวโรฮิงญาที่ให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐ

รอยเตอร์ - กลางดึกของวันที่ 4 ก.ค. ชายสวมหน้ากากมากกว่า 10 คน แต่งชุดดำตั้งแต่หัวจดเท้า เข้าล้อมบ้านของอับดู ซุลวอน ในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของพม่า ภรรยาม่ายของอับดู ซุลวอน ระบุว่า นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอเห็นเขามีชีวิตอยู่

“ฉันเห็นรอยเลือดที่คนพวกนั้นลากเขาไป” ฮาเลดา อายุ 40 ปี เปิดรอยฟกช้ำตามร่างกายที่เธอกล่าวว่า ถูกกลุ่มชายทุบตีด้วยท่อนไม้ ส่วนร่างของสามีพบในเหวใกล้หมู่บ้านหม่องนามา เมื่อวันเสาร์ (15)

ฮาเลดา ให้ข้อมูลต่อนักข่าวที่ลงพื้นที่ในการเดินทางที่รัฐบาลจัดขึ้น ยังพื้นที่ทางเหนือของรัฐยะไข่ ที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมโรฮิงญาไร้สัญชาติ

“ชัดเจนว่าผู้ก่อการร้ายโรฮิงญากำลังกำจัดชาวบ้านมุสลิมที่ถูกมองว่าให้ความร่วมมือต่อรัฐบาล” ต่อง ตุน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของนางอองซานซูจี กล่าวต่อนักการทูตในนครย่างกุ้ง

ต่อง ตุน ระบุว่า มีพลเรือนถูกสังหารอย่างน้อย 44 คน และมีผู้ถูกลักพาตัว หรือสูญหายไป 27 คน ในพื้นที่ทางเหนือของรัฐยะไข่ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา

แม้จะยังไม่สามารถตรวจสอบตัวเลขดังกล่าว หรือพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสังหารได้ และฝ่ายผู้ก่อการร้ายได้ปฏิเสธว่ามุ่งเป้าโจมตีพลเรือน แต่ในเหตุการณ์สังหารสองกรณี ที่รวมทั้งเหตุการณ์ของอับดู ซุลวอน ญาติของเหยื่อสนับสนุนกิจกรรมของทางการ

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. กลุ่มที่รู้จักในชื่อฮาราคาห์ อัล-ยาคิน โจมตีด่านชายแดนพม่า สังหารตำรวจไป 9 นาย ที่นำมาซึ่งวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ฝ่ายบริหารของซูจี เคยเผชิญ

จากการปราบปรามดังกล่าว ทำให้ชาวโรฮิงญาราว 75,000 คน หลบหนีไปบังกลาเทศ และก่อให้เกิดข้อกล่าวหาว่าทหารกระทำการทารุณทั้งข่มขืน ทรมาน และสังหารชาวโรฮิงญา

รัฐบาลของซูจี ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้น และปฏิเสธที่จะให้คณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติเดินทางเข้าประเทศ โดยระบุว่า ภารกิจของสหประชาชาตินี้จะยิ่งทำให้สถานการณ์ในรัฐยะไข่เลวร้ายขึ้น
.

.
แม้ผู้ก่อความไม่สงบจะไม่ค่อยได้ปะทะกับกองกำลังรักษาความมั่นคงในช่วงหลายเดือนมาที่ผ่านมา แต่การออกตรวจสอบรายงานที่ระบุว่า มีผู้ก่อการร้ายหลบซ่อนอยู่ในหมู่บ้านตินเม ทหารได้ปะทะกับกลุ่มชายติดอาวุธเมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่สังหารผู้ต้องสงสัยไป 2 คน และจับกุมตัวได้ 2 คน

ผู้บัญชาการหน่วยตำรวจรักษาชายแดนระบุว่า ข้อมูลที่รวบรวมได้จากการสอบปากคำ และการค้นพบค่ายฝึกก่อการร้าย ชี้ว่า เหตุฆาตกรรมเมื่อไม่นานที่ผ่านมากระทำโดยผู้ก่อการร้าย

โมฮัมหมัด ทาสัน อายุ 28 ปี พบเสียชีวิตจากบาดแผลบริเวณคอ และลำตัว ในหมู่บ้านยินมากองต่อง

“สามีของฉันเป็นมิตรกับทหาร ฉันคิดว่านั่นเป็นเหตุผลที่พวกนั้นฆ่าเขา” ฮอดีซา อายุ 23 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับชาวบ้านจากหมู่บ้านหม่องนามา ประมาณ 20 คน ในสัปดาห์นี้ เพื่อสืบสวนเหตุสังหารอับดู ซุลวอน แต่ส่วนใหญ่ถูกปล่อยตัวเป็นอิสระในเวลาต่อมา มีเพียง 4 คน ที่ต้องสงสัยว่าทำงานกับผู้ก่อการร้ายที่กำลังถูกสอบปากคำ.